ประวัติและตำนาน

เผ่าพื้นเมืองในปาปัวนิวกินีสนับสนุนให้เด็กมีเซ็กส์ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ 

         เผ่าพื้นเมืองในปาปัวนิวกินี  เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับประเทศปาปัวกินีกันบ้างแล้วประเทศนี้นั้นมีชนเผ่ามากมายหลายเผาด้วยกันซึ่งประเทศปาปัวนิวกินีนั้นถือว่าเป็นประเทศ

ที่ยังไม่ค่อยเจริญมากนักเรื่องราวของชนเผ่าในประเทศปาปัวนิวกินีที่เราจะนำมาเสนอนี้เป็นเรื่องราวที่เชื่อว่าหลายคนนั้นก็ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนอย่างแน่นอนแต่ก็มีการเปิดเผยเอาไว้ในเว็บไซต์หลายๆเว็บ

         สำหรับเรื่องราวที่เรากำลังจะเปิดเผยนี้เป็นเรื่องราวของชนเผ่า Trobriander  ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เชื่อว่าหลายคนคงไม่คาดคิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในโลกนี้อย่างแน่นอนสำหรับเรื่องราวที่เรากำลังพูดถึงนี้นับได้ว่าเป็นเรื่องแปลกพิสดารที่ไม่เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อนเป็นประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับเรื่องของธรรมชาติของคนในชนเผ่าแห่งนี้ที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวกับเรื่องเซ็กซ์

             โดยมีการระบุว่าผู้คนที่อยู่อาศัยในชนเผ่าแห่งนี้จะมีวัฒนธรรมอย่างหนึ่งนั่นก็คือวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันหรือแต่งงานกันโดยคนในชนเผ่าจะไม่จัดงานแต่งงานทุกคนจะรู้ดีว่าหากชายหญิงคู่ไหนรักกันและอยากอยู่ด้วยกันนั้นพวกเขาสามารถที่จะให้ฝ่ายหญิงไปนอนบ้านฝ่ายชายได้เลยหลังจากที่กินข้าวกับครอบครัวของฝ่ายชายและร่วมหลับนอนกับฝ่ายชายจนรุ่งสาง

โดยที่ไม่ออกมาบ้านฝ่ายชายตื่นเช้ามาก็ให้ชายหญิงคู่ดังกล่าวมานั่งอยู่ที่บริเวณหน้าบ้านญาติของฝ่ายหญิงก็จะมีการนำของขวัญเล็กๆน้อยๆยกตัวอย่างเช่นมันหรือเผือกมาให้กับครอบครัวของฝ่ายชายก็ถือว่าเป็นการแต่งงานที่เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว

            อย่างไรก็ตามวัฒนธรรมเกี่ยวกับเรื่องของการแต่งงานหรือเรื่องเซ็กส์ของชาวเผ่า Trobriander  ไม่ได้มีเพียงแค่นี้เพราะสิ่งสำคัญที่เราจะเราจะพูดถึงก็คือชนเผ่าTrobriander 

มีการสนับสนุนให้คนในเผ่านั้นมีเซ็กส์ได้อย่างเสรีจะมีความสัมพันธ์กันบ่อยมากแค่ไหนหรือจะมีเซ็กส์กันเวลาไหนก็ได้ไม่มีใครห้ามและที่สำคัญผู้คนในเผ่านี้อนุญาตให้คนมีเซ็กส์กันได้ตั้งแต่อายุ 6 ขวบเป็นต้นไป  

           สำหรับเด็กผู้หญิงคนไหนที่อยากจะมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายก็สามารถที่จะเปลือยท่อนบนให้เห็นด้านหน้าอกโชว์สรีระต่างๆซึ่งจะทำให้ฝ่ายชายหรือว่าผู้หญิงคนนี้พร้อมที่จะมีความสัมพันธ์กับผู้ชายแล้วโดยผู้ใช้ส่วนใหญ่ที่จะมีความสัมพันธ์นั้นจะอยู่ที่อายุ 11 ขวบเป็นต้นไปและครอบครัวของฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิงก็จะไม่มีใครต่อต้านพวกเขาให้การสนับสนุนจะไม่มีการจัดงานแต่งงานซึ่งถ้าหากว่าเด็กคนไหนอยากที่จะอยู่ด้วยกันก็เพียงแค่ไปกินอาหารร่วมกันหลังจากนั้นก็ถือว่าทั้งคู่นั้นมีความสัมพันธ์กันแล้วและถ้าหากทั้งคู่เลิกกินอาหารด้วยกันก็ถือว่าอย่าขาดจากกันนั่นเอง

      แต่ถ้าหากว่าหย่ากันแล้วอยากจะกลับมาคืนดีกันก็สามารถทำได้โดยผู้ชายจะต้องหาของขวัญเล็กๆน้อยๆไปง้อฝ่ายหญิงถ้าหากฝ่ายหญิงยอมคืนดีด้วยก็สามารถกลับมาคืนดีได้เช่นเดียวกันซึ่งเรื่องราวของชนเผ่าในประเทศปาปัวนิวกินีนี้นับได้ว่าเป็นเรื่องราวที่มีวัฒนธรรมที่แปลกมากเลยทีเดียว 

 

สนับสนุนโดย  ufabet

แนะนำจังหวัดที่มีการจัดงานเทศกาลกินเจ 

      การจัดงานเทศกาลกินเจ   สำหรับใครอยากจะไปท่องเที่ยวในช่วงที่มีการจัดงานเทศกาลกินเจในบทความนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ที่มีการจัดงานเทศกาลกินเจจากหลายจังหวัดในประเทศไทย

มาดูกันว่ามีที่ไหนกันบ้างเผื่อถ้าหากว่าใครมีเวลาว่างก็สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆที่ได้ร่วมงานเทศกาลกินเจประจำจังหวัดเหล่านั้น 

      สำหรับในกรุงเทพฯมีการจัดเทศกาลประเพณีกินเจเป็นประจำทุกปีอยู่แล้วโดยสถานที่ที่มีการจัดงานใหญ่ที่สุดในกรุงเทพก็คือถนนเยาวราชนั่นเองซึ่งนอกจากจะมีการทำพิธีกรรมต่างๆแล้วถนนเยาวราชยังมีอาหารตลอดสองข้างทางซึ่งเป็นอาหารเจมาวางขายดังนั้นถ้าหากใครเป็นคนกรุงเทพฯหรือเป็นคนปริมณฑลก็สามารถไปร่วมงานที่ถนนเยาวราชได้ 

         อย่างไรก็ตามสำหรับใครที่อยู่ในจังหวัดนนทบุรีถ้าหากว่าสนใจจะร่วมงานเทศกาลกินเจที่จัดขึ้นภายในจังหวัดนั้นก็มีเช่นเดียวกันโดยที่จังหวัดนนทบุรีนั้นจะมีการจัดงานอยู่ที่วัดพระบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ซึ่งภายในงานก็จะมีการอัญเชิญพระนวะราชาพุทธะและมีการสวดมนต์ภาวนาการทำวัตรเช้าการถวายพุทธบูชาการเสกข้าวทิพย์และยังมีกิจกรรมอื่นๆอีกเยอะแยะมากมาย

นอกจากนี้ยังมีการทำบุญแจกข้าวสารบริจาคสิ่งของตามจิตศรัทธาอย่างไรก็ตามหากใครต้องการไปร่วมเทศกาลกินเจในจังหวัดนนทบุรีนั้นบริเวณตลาดใกล้กับวัดพระบรมก็มีการขายอาหารเจให้กับบรรดานักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินเช่นเดียวกัน 

       นอกจากนี้ที่จังหวัดสมุทรสาครเองก็มีการจัดเทศกาลกินเจเช่นเดียวกันซึ่งในจังหวัดสมุทรสาครนั้นมีศาลเจ้าใหญ่ๆอยู่มากมายหลายเจ้าด้วยกันโดยแต่ละศาลเจ้านั้นก็จะมีการจัดเทศกาลกินเจอย่างเช่นศาลเจ้าพ่อหลักเมืองหรือแม้แต่โรงเจมูลนิธิการกุศลสมุทรสาครนอกจากนี้ยังมีศาลเจ้าแม่อยู่หัวนี้และศาลเจ้าปุนเถ้ากงคลองมหาชัยและยังมีสารอื่นๆอีกเยอะแยะมากมายเต็มไปหมดเลยทีเดียวซึ่งแต่ละที่นั้น

     นอกจากจะมีการกิจกรรมการทำบุญในช่วงเทศกาลกินเจแล้วก็ยังมีร้านค้าเยอะแยะมากมายมาออกบูธคอยบริการนักท่องเที่ยวซึ่งมีอาหารมากกว่า 100 เมนูเลยทีเดียว

          อย่างไรก็ตามไม่ใช่เพียงแค่กรุงเทพฯและนนทบุรีรวมถึงจังหวัดสมุทรสาครเพียงเท่านั้นแต่จังหวัดนครปฐมรวมถึงจังหวัดสระบุรีและจังหวัดจันทบุรีนอกจากนี้ยังมีจังหวัดพิษณุโลกรวมถึงอีกหลายจังหวัดในเขตภาคใต้ไม่ว่าจะเป็นภูเก็ตหรือจังหวัดตรังรวมถึงจังหวัดชุมพรก็มีการจัดงานเทศกาลกินเจกันอีกด้วยซึ่งส่วนใหญ่แล้วสถานที่ในการจัดงานเทศกาลกินเจตามต่างจังหวัดนั้นมักจะมีการจัดตามโรงเจต่างๆนั่นเอง ดังนั้นหากใครสนใจก็ค้นหาข้อมูลการจัดงานของแต่ละจังหวัดได้ว่ามีการจัดโรงเจที่ไหนบ้างและสามารถเดินทางไปร่วมงานได้เลย

 

สนับสนุเนื้อหาต่างๆโดย    gclub ทดลองเล่นฟรี

คำแนะนำเกี่ยวกับการไปเที่ยวชมเทศกาลบั้งไฟพญานาค 

    ชมเทศกาลบั้งไฟพญานาค   อย่างที่เรารู้กันดีว่าที่จังหวัดหนองคายนั้นเมื่อถึงวันออกพรรษาจะมีการจัดประเพณีบั้งไฟพญานาคและมีผู้คนเป็นจำนวนมากที่ไปร่วมงาน

ดังนั้นหากนักท่องเที่ยวคนไหนที่อยากจะไปร่วมงานเทศกาลบั้งไฟพญานาคคุณจะต้องไปทำการจองที่พักก่อนที่จะมีการเดินทางไปแนะนำว่าควรจะมีการจองที่พักตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนเป็นการจองที่พักล่วงหน้า

           เพราะถ้าหากว่าต้องการไปค้างคืนหรือไปร่วมงานนั้นไม่ได้มีการจองที่พักล่วงหน้าเรียกได้ว่าจะไม่มีที่ให้คุณพักได้อย่างแน่นอนซึ่งสถานที่ที่ควรจะมีการพักตามโรงแรมนั้นก็คือที่พักที่อำเภอรัตนวาปีและอำเภอโพนพิสัยเพราะอยู่ใกล้กับสถานที่ในการจัดงานบั้งไฟพญานาคมากที่สุดและอีกอย่างนึงทั้งสองอำเภอนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ที่พักไม่ค่อยมีเยอะมากเท่าไหร่นัก 

         สำหรับการไปร่วมงานเทศกาลบั้งไฟพญานาคนั้นต้องเที่ยวจะได้เจอกับกิจกรรมเยอะแยะมากมายไม่ว่าจะเป็นการเข้าร่วมประเพณีทำบุญตักบาตรในช่วงตอนเช้าและยังมีการชมการแสดงกระทงยักษ์รวมถึงการไหลเรือไฟและการแข่งขันเรือยาวเป็นต้นกิจกรรมนั้นจะมีการจัดกิจกรรมทางช่วงเวลากลางวันและช่วงเวลากลางคืนซึ่งจะมีสินค้าเพื่อให้นักท่องเที่ยวเยอะแยะมากมายเต็มไปหมดไม่ว่าจะเป็นของจีนของใช้หรือผลิตภัณฑ์ OTOP ก็ตาม

         นอกจากนี้ตลอดการจัดงานนั้นนักท่องเที่ยวยังได้เพลิดเพลินกับบรรดานักดนตรีที่จะมาแสดงตนเองให้ฟังซึ่งจะมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเยอะแยะมากมาย  สำหรับการจัดงานเทศกาลบั้งไฟพญานาคนั้นไม่ได้จัดเพียงแค่วันหรือ 2 วันเท่านั้นแต่จะเกิดขึ้นประมาณ 7 วัน 7 คืนกันเลยทีเดียว

      นอกจากนี้ผู้คนที่เดินทางไปร่วมงานเทศกาลบั้งไฟพญานาคต่างก็พากันเฝ้าหวังว่าจะได้เห็นปรากฏการณ์อันน่ามหัศจรรย์เมื่อลูกไฟพญานาคด้วยพวยพุ่งขึ้นจากกลางแม่น้ำโขง

ซึ่งโดยปกติแล้วจะเกิดขึ้นในวันออกพรรษาโดยนักท่องเที่ยวจะมองเห็นลูกไฟนานประมาณ 5-10 วินาทีและลูกไฟจะแหวะพุ่งขึ้นไปกลางอากาศมีความสูงประมาณ 50 ถึง 150 เมตรดังนั้นนักท่องเที่ยวควรจะมีการเฝ้ารออยู่ตรงบริเวณริมตลิ่ง  สล็อตยูฟ่าเว็บตรง    เพื่อให้เห็นอย่างชัดเจนซึ่งโดยปกติแล้วลูกไฟจะขึ้นในช่วงเวลาตอนเที่ยงคืนโดยจะขึ้นทุกวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 

          สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนที่อยากจะเห็นปรากฏการณ์ลูกไฟสีแดงขึ้นกลางแม่น้ำโขงนั้นสามารถไปชมได้ริมแม่น้ำโขงซึ่งจะมีทั้งอำเภอสังคมและอำเภอศรีเชียงใหม่นอกจากนี้อำเภอรัตนวาปีและอำเภอโพนพิสัยจังหวัดหนองคายก็สามารถมองเห็นได้หรือหากใครจะไปที่จังหวัดบึงกาฬก็สามารถชมได้ที่อำเภอปากคาดนั่นเอง

ประวัติวัดศรีสวาย จังหวัดสุโขทัย 

        สำหรับในบทความนี้เราจะพาไปรู้จักประวัติความเป็นมาของวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังและมีความเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดสุโขทัย ประวัติวัดศรีสวาย

โดยวัดที่เราจะพาไปรู้จักกันในครั้งนี้นั้นเป็นวัดที่ตั้งอยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยซึ่งถือได้ว่าวัดแห่งนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมากและเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในโบราณสถานที่สำคัญของประเทศไทยเลยก็ว่าได้โดยวัดที่เรากำลังพูดถึงนี้ก็คือวัดศรีสวายนั่นเอง

        สำหรับประวัติความเป็นมาของวัดศรีสวายนั้นว่ากันว่าวัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ในช่วงของพุทธศตวรรษที่ 18 เลยก็ว่าได้ซึ่งวัดแห่งนี้นั้นเป็นวัดที่มีขนาดพื้นที่กว้างใหญ่เป็นอย่างมากหลังจากที่มีการสร้างขึ้นมาแล้ววัดแห่งนี้ก็ยังได้มีการบูรณะต่อเติมเพิ่มเติมขึ้นมาให้กลายมาเป็นศาสนสถานที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์โดยมีการบูรณะเพิ่มเติมในสมัยอยุธยาอย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่าวัดแห่งนี้นั้นมีสิ่งก่อสร้างที่มีความเก่าแก่เยอะแยะมากมายเต็มไปหมดไม่ว่าจะเป็นปรางค์ 3 องค์ซึ่งว่ากันว่าปรางค์ 3 องค์นี้ได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะสมัยขอมโดยจะเห็นได้จากรูปแบบลักษณะของการก่อสร้างนั้นเป็นรูปแบบของสมัยลพบุรี

          นอกจากนี้ยังดูที่ลวดลายปูนปั้นบริเวณฐานก็มีความสวยงามทันสมัยที่สำคัญบางส่วนของบริเวณฐานนั้นยังมีลวดลายคล้ายกับเครื่องถ้วยจีนในสมัยราชวงศ์หยวนอีกด้วยนอกจากนี้ภายในพื้นที่บริเวณวัดศรีสวายยังมีทับหลังสลักเป็นรูปพระนารายณ์บรรทมสินธุ์รวมถึงยังมีเทวรูปและศิวลึงค์อีกเยอะแยะมากมายเต็มไปหมดเรียกได้ว่าสิ่งก่อสร้างที่อยู่ภายในวัดหรือแม้แต่พระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดศรีสวายนั้น

เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีความเก่าแก่โบราณและแต่ละอย่างนั้นก็มีความเชื่อมโยงเกี่ยวพันกัน ดังนั้นที่นี่จึงถือได้ว่าเป็นสถานที่ที่เราสามารถศึกษาประวัติศาสตร์ความเป็นมาของคนในสมัยโบราณหรือวัดในสมัยโบราณได้เป็นอย่างดี  นอกจากนี้แม้แต่ตัวกำแพงของวัดเองก็มีการสร้างขึ้นมาด้วยศิลาแลงซึ่งถือได้ว่าเป็นการก่อสร้างในช่วงยุคโบราณซึ่งถือได้ว่าที่นี่เป็นหลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์และทางโบราณคดีเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

           นอกจากนี้ประวัติความเป็นมาของวัดศรีสวายนั้นว่ากันว่าในสมัยของรัชกาลที่ 5 พระองค์ก็เคยเสด็จมาที่บริเวณนี้โดยพระองค์เสด็จมาในช่วงประมาณปีพ.ศ 2451 ซึ่งในตอนนั้นพระองค์ทรงภพรูปพระสยมและพระศิวะซึ่งอยู่ภายในวิหารและหลักไม้ปักอยู่ในโบสถ์อีกด้วย  อย่างไรก็ตามภายในวัดศรีสวายนะไม่ได้มีพระพุทธรูปของศาสนาพุทธเพียงอย่างเดียวเท่านั้นแต่ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาอื่นอยู่อีกด้วยไม่ว่าจะเป็นศาสนาฮินดูซึ่งภายในวัดนั้นมีสระลอยบาปนอกจากนี้ยังมีศาสนาอื่นอีกเยอะแยะมากมายเต็มไปหมดซึ่งถือได้ว่าที่นี่เป็นส่วนรวมของศาสนาต่างๆเลยก็ว่าได้   

 

สนับสนุนโดย.    ufabet

เจดีย์ชเวสิกอง ประเทศเมียนมาร์ 

เจดีย์ชเวสิกอง เมื่อพูดถึงประเทศเมียนมาร์เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับชื่อเสียงขององค์เจดีย์ต่างๆในประเทศเมียนมาร์ว่ามีความสวยงามมากแค่ไหน

ซึ่งประเทศเมียนมาร์นั้นถูกระบุว่ามีการสร้างมหาเจดีย์ขนาดใหญ่และมีความสวยงามเอาไว้ถึง 5 แห่งด้วยกันโดยในบทความนี้เราจะมาพูดถึงมหาเจดีย์หนึ่งในห้าที่ได้รับความนิยมและถูกระบุว่าเป็นเจดีย์ที่มีความงดงามติดอันดับของประเทศเมียนมาร์นั่นเองซึ่งเจดีย์ที่เรากำลังจะพาไปพูดถึงกันในครั้งนี้ก็คือเจดีย์ชเวสิกอง 

          สำหรับเจดีย์แห่งนี้ว่ากันว่ามีการสร้างเอาไว้ตั้งแต่ในสมัยโบราณอายุหลายร้อยปีแล้วการก่อสร้างเจดีย์แห่งนี้ขึ้นมานั้นก็เพื่อต้องการที่จะใช้สำหรับเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุซึ่งเจดีย์ชเวสิกองแห่งนี้นั้นมีการนำพระบรมสารีริกธาตุทั้งหมด 3 ส่วนด้วยกันมาบรรจุประดิษฐานเอาไว้ในเจดีย์ชเวสิกองแห่งนี้  

          สำหรับพระบรมสารีริกธาตุ ที่ถูกนำมาบรรจุไว้ในเจดีย์ชเวสิกองแห่งนี้นั้นได้แก่พระทันตธาตุหรือที่ชาวบ้านมักเรียกกันว่าพระเขี้ยวแก้วซึ่งพระทันตธาตุนี้ถูกนำมาถวายให้แก่กษัตริย์แห่งของพม่าโดยผู้ที่นำมาถวายนั้นก็คือกษัตริย์แห่งสีลังกาในยุคนั้นเอง

  ส่วนพระธาตุส่วนที่ 2 นั้นถูกนำมาจากเมืองสีเกษตรโดยเฉพาะถ้าส่วนที่ 2 นี้คือส่วนที่เป็นกระดูกไหล่  และพระธาตุส่วนที่ 3 คือพระธาตุนลาฏ ถูกนำมาจากเมืองศรีเกษตรเช่นเดียวกัน 

        อย่างไรก็ตามตามประวัติความเป็นมาในการก่อสร้างเจดีย์ชเวดากองนั้นว่ากันว่ากษัตริย์ที่เป็นคนที่มีการสั่งให้มีการก่อสร้างเจดีย์ชเวสิกองนั้นมีความต้องการที่จะเป็นผู้รวบรวมแผ่นดินในแถบนั้นให้เป็นปึกแผ่นหรืออาจจะกล่าวได้ว่ากษัตริย์พม่าในยุคนั้นต้องการที่จะก่อตั้งอาณาจักรพุกามขึ้นมา

จึงได้มีการตั้งเจดีย์ชเวสิกอง ขึ้นมาซึ่งพระองค์นั้นถือว่าเป็นกษัตริย์องค์แรกของราชวงศ์พุกามนั่นเอง  สำหรับชื่อเสียงของกษัตริย์ที่มีการสั่งให้มีการก่อสร้างเจดีย์ชเวสิกอง นั้นก็คือพระเจ้าอโนรธามังช่อ 

           ลักษณะของเจดีย์ชเวสิกองนั้นเป็นเจดีย์ขนาดใหญ่ซึ่งมีการทาสีทองเหลืองอร่ามบริเวณโดยรอบของเจดีย์ชเวสิกอง จะมีการประดับประดาเอาไว้อย่างสวยงามเป็นการนำคล้ายกับต้นไม้สีทองมาตกแต่งบริเวณโดยรอบซึ่งลักษณะของต้นไม้นั้นจะมีลักษณะของฉัตร  9 ชั้น

           ปัจจุบันเจดีย์ชเวสิกองเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากบรรดานักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากเนื่องจากว่าเป็นสถานที่ที่ถ้ามึงให้ความเคารพนับถือและยังมีความสวยงามอีกด้วยซึ่งส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวมักจะเดินทางมาเที่ยวโดยการนั่งรถแท็กซี่ซึ่งที่นี่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมได้ตลอด 24 ชั่วโมง 

 

สนับสนุนโดย.    ufabet

ประวัติศาลเจ้าพ่อหลักเมือง จังหวัดตราด

       ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง   สำหรับในประเทศไทยนั้นทุกจังหวัดจะมีศาลหลักเมืองเป็นของตนเองซึ่งศาลหลักเมืองนั้นถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองและถ้าหากใครเดินทางไปเที่ยวจังหวัดนั้นๆก็ควรจะแวะไปกราบไหว้ขอพรศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเพื่อความเป็นสิริมงคลของตนเองซึ่งในบทความนี้เราจะมาพูดเกี่ยวกับเรื่องของประวัติการก่อสร้างศาลหลักเมืองประจำจังหวัดตราดซึ่งเป็นจังหวัดหนึ่งในจังหวัดที่ได้รับความนิยมจากบรรดานักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยวกันอย่างไม่ขาดสาย 

           อย่างไรก็ตามหากใครสนใจที่จะเดินทางไปกราบไหว้ขอพรศาลหลักเมืองประจำจังหวัดตราดนั้นสามารถเดินทางไปได้ซึ่งศาลหลักเมืองที่นี่นั้นจะตั้งอยู่บริเวณหน้าอำเภอของจังหวัดเลยทีเดียว

ดังนั้นสามารถที่จะหาได้ง่ายๆซึ่งเป็นสารขนาดใหญ่มีป้ายบอกอย่างชัดเจนหรือถ้าใครหาเส้นทางในการเดินทางไปไม่เจอก็สามารถค้นหาผ่านทาง Google Map ได้เช่นเดียวกัน

           นอกจากนี้ศาลหลักเมืองประจำจังหวัดตราดนั้นเป็นศาลหลักเมืองที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นแตกต่างจากศาลหลักเมืองของจังหวัดอื่นๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับเรื่องของลักษณะของศิลปะสถาปัตยกรรมการก่อสร้างศาลหลักเมืองเพราะที่จังหวัดตราดนั้นมีสถาปัตยกรรมการก่อสร้างในลักษณะแบบเก่งจีนซึ่งเราไม่ค่อยพบเห็นกันมากนักเพราะศาลหลักเมืองส่วนใหญ่นั้นจะเน้นการก่อสร้างในศิลปะของไทยโบราณนั่นเอง

         อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าลักษณะของการก่อสร้างศาลหลักเมืองของจังหวัดตราดนั้นจะแตกต่างจากของที่อื่นแต่ก็ยังคงเป็นศาลหลักเมืองซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นสิ่งที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือและศรัทธาเป็นอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งศาลหลักเมืองของจังหวัดตราดนั้น

ว่ากันว่ามีประวัติการสร้างมาตั้งแต่สมัยยุคของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเลยทีเดียวซึ่งยุคดังกล่าวเป็นยุคที่พระเจ้าตากสินกำลังก่อสงครามซึ่งเป็นช่วงที่พระองค์ได้เดินทางมาที่จังหวัดตราดเพื่อทำการรวบรวมไพร่พลเมืองตราดเพื่อที่จะนำกำลังพลไปฝึกซ้อมเป็นทหารเพื่อกอบกู้ชาติบ้านเมือง 

          ดังนั้นที่บริเวณศาลหลักเมืองประจำจังหวัดตราดแห่งนี้นั้นจึงมักมีการจัดกิจกรรมวันงานพรีเมืองขึ้นทุกปีซึ่งเป็นกิจกรรมที่ประชาชนชาวจังหวัดตราดนั้นต้องการจัดขึ้นมาเพื่อเป็นการเทิดทูนคุณงามความดีของเจ้าพ่อหลักเมืองซึ่งจะจัดกันที่หน้าบริเวณศาลหลักเมืองโดยชาวจีนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดตราดเรียกงานนี้ว่าวันเสี่ยกรงแซยิดนั่นเอง 

      อย่างไรก็ตามนอกจากนักท่องเที่ยวจะสามารถกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ซึ่งก็คือศาลหลักเมืองประจำจังหวัดแล้วยังสามารถกลับไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีความสำคัญของชาวจังหวัดตราดอีกอย่างหนึ่งก็คือศิวลึงค์ศิลาซึ่งถูกค้นพบและถูกนำมาไว้ที่บริเวณศาลหลักเมืองโดยการค้นพบนั้นค้นพบที่บ้านห้วยแร้งอำเภอเมืองหลังจากนั้นก็มีการอัญเชิญมาไว้ที่บริเวณศาลหลักเมืองเพื่อให้ประชาชนทั่วไปเข้ามากราบไหว้ขอพรได้อีกด้วย

 

สนับสนุนโดย.    ufabet เว็บหลัก