ตำนานวัดดอน

         สำหรับวัดดอนแห่งนี้เป็นวัดที่อยู่ในกรุงเทพฯและเป็นวัดที่ถูกสร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1แห่ง กรุงรัตนโกสินทร์ซึ่งวัดแห่งนี้นั้นเป็นการร่วมแรงร่วมใจกันระหว่างเจ้าพระยาผู้ครองเมืองถวายชื่อว่ามางจานจากับชาวบ้าน ต่างก็ร่วมแรงร่วมใจกันที่จะสร้างวัดซึ่งแน่นอนว่าถ้าฟังจากชื่อแล้วมางจันจานั่นก็คือชาวพม่านั่นเอง ซึ่งประวัติของท่านบางชันจานั้นท่านเป็นข้าราชการที่ทำงานอยู่ในสมัยพุกามประเทศ

ซึ่งถ้าพูดให้ถูกว่าในสมัยปัจจุบันนี้ก็เรียกว่าประเทศพม่านั่นเอง ในสมัยนั้นมีตำนานบอกเอาไว้ว่าท่านเกิดขัดใจกันกับพระเจ้าแห่งกรุงอังวะ จนถึงขนาดที่ไม่อยากอยู่ประเทศของตนเองจึงได้ส่งราชทูตติดต่อมายังประเทศไทยว่าจะขอลี้ภัยมาอยู่ที่ประเทศไทยและขออยู่ภายใต้การปกครองของไทยนั่นเอง และท่านยังได้ชวนคนอื่นๆให้มาอยู่ที่ประเทศไทยด้วย

ซึ่งในครั้งนั้นพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกได้ปูนบำเหน็จให้กับ ราชการของชาวพม่าทั้ง 3 พระองค์ โดยเฉพาะเจ้าพระยาทวายที่จะได้มากกว่าคนอื่นเนื่องจากว่าท่านสามารถที่จะนำพระญาติที่หายไปนานให้มาพบปะพูดคุยเจอกับรัชกาลที่ 1 ทำให้รัชกาลที่ 1 นั้นทรงโปรดปรานพระเจ้ามังจันจามาก

จึงชวนให้มาอยู่ในกรุงเทพฯด้วยกันและมอบที่ดินให้บางส่วนซึ่งหลังจากนั้น พระเจ้ามังจันจา ก็ได้นำที่ดินบางส่วนนั้นมาแบ่งเพื่อสร้างเป็นวัดซึ่งเป็นวัดดอยในปัจจุบันนั่นเองอย่างไรก็ตามมีตำนานมายาวนานเกี่ยวกับเรื่องของผีวัดดอน จากว่าที่นี่มีป่าช้าที่เป็นพื้นที่กว้างใหญ่เนื่องจากจะมีรถมูลนิธิถึง 3 มิติด้วยกันนำศพซึ่งส่วนใหญ่นั้นก็จะเป็นศพที่ประสบอุบัติเหตุมาแล้วนำมาฝังที่ป่าช้าวัดดอนซึ่งถ้านับกันแล้ว

ก็มากกว่าหมื่นคนเข้าไปแล้วดังนั้นผู้คนที่อยู่บริเวณแถวนี้จึงมักมีการร่ำลือถึงวิญญาณที่ถูกนำมาฝังไว้ที่ประชาวัดดอนจากในอดีตจนถึงปัจจุบันเรามักจะได้ยินคำเล่าขานถึงความน่ากลัวของวัดดอนโดยเฉพาะกลุ่มคนขับรถแท็กซี่นั้นหากรู้ว่าในช่วงเวลากลางคืนนั้นมีคนโบกรถจะให้ไปส่งที่วัดดอนแล้วแล้วก็พวกเขาจะปฏิเสธไม่มาส่งทันทีหรือแม้แต่คำร่ำลือที่ว่าหากในช่วงเวลากลางคืน

คุณขับรถผ่านมาทางเส้นของวัดดอนคนเดียวแต่คนชาวบ้านก็จะเห็นว่าจะมีคนนั่งข้างๆนั่งรถไปกับคุณด้วยซึ่งคนที่นั่งข้างๆนั้นก็มักจะใส่เสื้อผ้าที่ขาดวิ่นสำหรับเรื่องราวความน่ากลัวของวัดดอนนี้มีตั้งแต่สมัยโบราณและการมาจนถึงปัจจุบันก็ยังมีการพูดถึงกันแบบปากต่อปากแต่ว่าคนชุมชนในเขตวัดดอนเองนั้นไม่เคยมีใครพูดถึงเรื่องนี้กันเลย

เนื่องจากว่าปัจจุบันไม่มีใครเคยเห็นผีวัดดอนมาแล้วเนี่ยนานมาแล้วซึ่งความเชื่อและความน่ากลัวของวัดดอนนั้นจะยังคงมีอยู่แต่เฉพาะคนนอกพื้นที่เท่านั้นที่ยังมีการเล่าขานเรื่องนี้กันอยู่แต่สำหรับคนในชุมชนนั้นเรื่องนี้เป็นแค่เพียงคำร่ำลือเท่านั้นที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริง

 

สนับสนุนโดย  ae sexy

ความแตกต่างระหว่างการถ่ายรูปด้วยกล้องดิจิตอลและกล้องฟิล์ม

ในช่วง5-10ปีที่ผ่านมานี้นั้นการเล่นกล้องไม่ว่าจะเป็นทั้งกล้องดิจิตอลหรือกล้องฟิล์มถือว่าได้รับความนิยมอย่างมากจากทั้งตากล้องมืออาชีพหรือตากล้องมือสมัครเล่นเพราะเน่องจากสังคมในยุคนี้มีทั้งโชเชียลมีเดียต่างๆทำให้คนเรานั้นสามารถเอารูปถ่ายไปใช้ประโยชน์ในทางต่างๆได้

ซึ่งมีความแตกต่างจากในสมัยก่อนที่การถ่ายรูปเป็นเหมือนเพียงเครื่องบันทึกความทรงจำเท่านั้นไม่ได้มีการนำไปใช้ประโยชน์หรือหารายได้จากรูปได้มากเท่านั้นสมัยนี้เนื่องจากรูปถ่ายสามารถที่จะไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆได้แล้ว คุณภาพของภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากทำให้ในปัจจุบัน

จึงมีการพัฒนาในด้านการถ่ายภาพขึ้นอย่างมากโดยเฉพาะกล้องสิ่งที่เป็นสิ่งสำคัญในการถ่ายภาพนั่นเองและไม่เพียงแต่กล้องดิจิตอลเพียงเท่านั้นที่มีการพัฒนากล้องฟิล์มก็มีการพัฒนาในเรื่องการล้างและสแกนภาพให้ออกมาคุณภาพดียิ่งขึ้นและสามารถที่จะนำไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆได้

ถึงแม้จะมีการพัฒนาในเรื่องการเพิ่มคุรภาพด้วยวิธีต่างๆของการถ่ายภาพนั้นแต่แน่นอนว่าทั้งกล้องดิจิตอลและกล้องฟิล์มย่อมมีความแตกต่างกันอย่างแน่นอน เพราะด้วยนวัตรกรรมความทันสมัยนั้นกล้องฟิล์มไม่สามารถที่จะสู่กล้องดิจิตอลได้เลยนั่นเอง ทำให้ความแตกต่างของกล้องทั้งสองนี้นั้นมีอยู่ค่อนข้างมากเลยทีเดียว

ในปัจจุบันถือว่าความแตกต่างทางด้านรูปลักษณ์และลักษณะการออกแบบตัวกล้องนั้นจะไม่ได้มีความแตกต่างกันมากเพราะมีการออกแบบเพื่อให้กล้องดิจิตอลสมัยใหม่นั้นมีลักษณะและรูปทรงที่มีความวินเทจคล้ายกับกล้องฟิล์มในอดีตนั่นเอง แต่ความแตกต่างนั้นจะอยู่ที่กลไกลในการทำงานและฟังก์ชั่นต่างๆภายในตัวกล้องต่างหาก

ความแตกต่างที่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนระหว่ากล้องดิจิตอลและกล้องฟิล์มก็คือ ฟีลลิ่งของภาพถ่ายนั่นเองซึ่งจะพูดถึงภาพถ่ายที่ได้จากกล้องดิจิตอลกันก่อน ภาพถ่ายที่ได้จากกล้องดิจิติลนั้นจะเป็นภาพที่มีความคมชัดอย่างมากและความคมชัดขึ้นอยู่กับคุณภาพของกล้องนั่นเอง กล้องดิจิตอลจึงให้ฟิลลิ่งภาพลักษณะคล้ายความเสมือนจริง ส่วนกล้องฟิล์มนั้นความคมชัดจะขึ้นอยู่ที่คุณภาพกล้อง

แต่จะขึ้นอยู่กับคุณภาพเลนส์เป็นหลักยิ่งเลนส์ที่ดีรูปจะยิ่งคมชัดแต่ฟิลลิ่งของรูปนั้นจะให้อารมณ์แบบฟุ้งๆภาพไม่ได้มีมิติที่คมชัดแบบภาพที่ได้จากกล้องดิจิตอล ซึ่งความแตกต่างนั้นก็ถือว่าเป็นความแตกต่างที่สวยงามของทั้งกล้องดิจิตอลและกล้องฟิล์ม และความแตกต่างเหล่านี้

ทำให้คนเล่นกล้องโดยส่วนใหญ่จำเป็นจะต้องมีทั้งกล้องดิจิตอลและกล้องฟิล์มด้วยนั่นเอง เพื่อให้ได้สัมผัสถึงฟิลลิ่งทั้งสองแบบนั่นเอง และถ้าหากเป็นคนที่รักในกล้องนั้นไม่ว่าจะกล้องดิจิตอลหรือกล้องฟิล์มความสวยงามของภาพก็เป็นสิ่งที่คนรักกล้องนั้นต้องการ

 

ขอขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  ufabet

6 สิ่งที่คนโบราณไม่อนุญาตให้ทำ

โบราณสมัยก่อนไม่อนุญาตให้ผู้คนตัดผมของตัวเองเพราะมีความเชื่ออยู่ว่าถ้าใครก็ตามที่ตัดผมของตนเองจะมีภูตผีปีศาจมาเลียปลายผมเพราะคนที่ตัดผมเองนั้นส่วนใหญ่จะตัดผมไม่เท่ากันมีสั้นบ้างและยาวบ้างดูไม่เรียบร้อยผีปีศาจบางพวกจะเป็นภูตผีที่ต้องการระเบียบก็จะมาเลียปลายผมของเราให้เรียบร้อย แต่ความจริงก็คือคนโบราณไม่อยากให้เราต้องร้องไห้ บางครั้งอาจจะทำให้ผมของเราจะมีช่องที่จะไม่ตรงและมาเสียใจที่หลังและอาจจจะถูกบาดเอา

คนสมัยก่อนเชื่อว่า ถ้าชมเด็กว่าน่ารักจะทำให้ภูตผีปีศาจมานำเด็กไปอยู่กับตนและทำให้เด็กร้องไห้และถ้าพูดว่าน่าเกลียดน่าชัง ความจริงก็คือที่คนสมัยก่อนบอกไว้อย่างนี้เพราะพ่อกับแม่จะรักลูกเกินไปค่ะ

คนสมัยโบราณเชื่อว่าถ้าใครนอนใต้ขื่อบ้านผีก็จะมาสิงร่างของเราค่ะและจะนั่งหรือนอนไม่สบายตัวค่ะ ความจริงก็คือ การที่คนโบราณไม่ให้นอนใต้ขื่อบ้านก็เพราะเราจะรู้สึกถูกทับและนั่งนอนไม่สบาย และยิ่งเป็นบ้านสมัยปัจจุบันจะมีเหล็กอยู่ในคือจะทำให้นั่งนอนไม่สบายตัวค่ะ วิธีที่สามารถแก้ไขได้ก็คือให้นอนตรงกลางระหว่างขื่อบ้านค่ะ

 คนสมัยโบราณเชื่อว่าถ้าตากผ้าอยู่บริเวณหน้าบ้านจะทำให้มีแต่สิ่งที่ไม่ดีเข้ามาในชีวิต และจะไม่มีรายรับแต่มีแต่รายจ่าย เพราะราวตากผ้า จะบดบังสิ่งดีๆไปหมดจะมีแต่สิ่งไม่ดีเข้าไปแทนที่จะเป็นสิ่งดี จึงเป็นเหตุผลที่บ้านของใครจะไม่ตากผ้าหน้าบ้านและจะไม่เจอสิ่งดีๆและคนที่อยู่ภายในบ้านจะมีแต่เรื่องที่ไม่เป็นสุข และบางทีอาจจะมีคนทำเสน่ห์ที่ปลายผ้าที่เราตากด้วยก็ได้ ความจริงก็คือ เพราะถ้าเราตากผ้าไว้หน้าบ้านจะไม่เรียบร้อย และเกะกะไม่สามารถเดินได้ค่ะ

 คนสมัยก่อนเชื่อว่าถ้าหญิงตั้งครรภ์ไปดูคนอื่นคลอดจะทำให้คลอดลูกยากและเจ็บท้องนานและที่ไม่ให้ไปดูคนคลอดลูกก็เพราะว่าเด็กที่กำลังออกมาจะอายเด็กที่อยู่ในครรภ์จึงทำให้คลอดลูกยาก แต่ความจริงที่คนสมัยก่อนบอกอย่างนี้ก็เพราะกลัวว่าแม่เด็กจะคิดมากจนไม่กล้ามีลูกเพราะกลัวจะเจ็บท้องค่ะ

คนในอดีตสมัยโบราณเชื่อว่าถ้าให้คนที่ตั้งครรภ์อาบน้ำตอนกลางคืนจะทำให้น้ำคร่ำในท้องเยอะและคลอดลูกยากคนในอดีตสมัยโบราณจึงไม่นิยมคนที่ตั้งครรภ์อาบน้ำตอนกลางคืนเพราะกลัวว่าคร่ำท้องจะเยอะ  แต่ความจริงแล้วที่คนในอดีตสมัยโบราณไม่อนุญาตให้คนตั้งครรภ์อาบน้ำตอนกลางคืนก็เพราะสมัยโบราณห้องน้ำแยกอยู่กับตัวบ้างกลัวว่างูจะมากัดแมลงจะมากัดและอาจจะป่วยได้ส่งผลกระทบถึงลูกในครรภ์ คนในอดีตสมัยโบราณจึงตั้งกฎนี้ขึ้นมาเพื่อไม่ให้คนที่ตั้งครรภ์อาบน้ำตอนกลางคืน

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  สมัคร Gclub

มรดกทางวัฒนธรรม

เมื่อใดก็ตามที่มนุษย์เราบนโลกใบนี้ เกิดปัญหาขึ้นมา สิ่งมีชีวิตอย่างพวกเราจะพยายามหาหนทางที่ต้องปรับตัว เพื่อให้ดำรงชีวิตต่อไปให้จงได้ เช่นเดียวกับภาวะวิกฤติไข้ไวรัสที่กำลังระบาดอยู่ทั่วโลกนี้ มนุษย์ก็ได้งัดเอาความคิดสร้างสรรค์ที่มีอยู่ในตัวมาใช้กันอีกครั้งหนึ่ง

ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า แต่ละประเทศก็มีการตั้งรับและมีการจัดการ แก้ปัญหาต่อสิ่งที่เกิดขึ้นที่แตกต่างกันออกไป เช่นเดียวกันเมื่อแต่ละประเทศก็มีการปิดประเทศและไม่ให้ประชาชนออกจากบ้านเพื่อเว้นระยะห่างทางสังคม และเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดอีกทางหนึ่ง

ซึ่งสิ่งที่เราจะได้เห็นในช่วงนี้ของการกักตัวแต่ละประเทศนั้น เราจะได้ค้นพบว่าอะไรคือสิ่งที่เป็นที่รักของตัวเอง และเราจะเห็นแต่ละประเทศมีวัฒนธรรมที่แตกต่างกันไป เช่น

ประเทศฝรั่งเศส แม้ว่าแฟชั่นจะมาแล้วไป แต่ขนมปังที่ฝรั่งเศส หรือที่เรารู้จักกันในชื่อบาเก็ตนั้นไม่เคยหายไปไหน แม้จะเป็นช่วงโรคระบาดก็เช่นเดียวกัน อย่างที่ทราบกันดีว่า มาตรการรับมือไข้ไวรัสของประเทศต่างๆ คือการล็อคดาวน์ประเทศไม่ให้ผู้คนออกจากบ้านถ้าไม่จำเป็น จึงส่งผลให้กับธุรกิจที่ต้องหยุดงาน แต่ก็จะมีบางร้านที่เปรียบเสมือนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศให้ยังคงเปิดอยู่ได้อย่างเช่น ร้านขนมปังบาเก็ต

ที่เป็นของกินประจำชาติของประเทศนี้ไปแล้ว จึงกลับมาขายดีอย่างเห็นได้ชัดในช่วงเวลาที่ร้านอาหาร หรือขนมอย่างอื่นต้องปิดตัวลง เช่นเดียวกับในเมืองปารีส ที่ไวน์ก็เป็นสิ่งล้ำค่าพอๆ กับผลิตภัณฑ์ล้างมือ แต่อย่างที่ทราบกันอยู่แล้วว่าคนฝรั่งเศส

ไม่สามารถกินข้าวโดยปราศจากไวน์ได้ ดังนั้นการปรับตัวทางธุรกิจจึงเกิดขึ้นด้วยธุรกิจไวน์ที่มีอยู่ในประเทศตอบสนองวัฒนธรรมอันนี้ด้วยการส่งไวน์ไปยังตามบ้านต่างๆ โดยใช้แพคว่า เพื่อการอยู่รอด โดยจะมีการส่งจำนวน หก หรือ สิบสองขวดไปยังสถานที่กักตัวต่างๆ

หรือแม้แต่การทักทายอันเลื่องชื่อของฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ ด้วยการหอมแก้ม จะไม่สามารถทำได้ ด้วยเพราะต้องมีการเว้นระยะห่างทางสังคม แต่ก็ไม่สามารถปิดกันความสุขในการกินอาหารของชาวฝรั่งเศสได้เลย เพราะบางสิ่งบางอย่างที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยอดีตจนถึงปัจจุบันนั้น

ได้ถูกสร้างและปลูกฝังให้มนุษย์ได้ดำเนินชีวิตมาตั้งแต่ก่อน จนกลายเป็นความเคยชินและเปรียบเสมือนเป็นการสืบทอดวัฒนธรรมต่างๆ มาตั้งแต่รุ่นสู่รุ่น จนบางครั้ง บางสิ่งบางอย่างที่ดูเหมือนจะทำลายล้างคนทั้งโลกได้ แต่ก็จะดูเหมือนไม่สามารถทำลายล้างมรดกทางวัฒนธรรมของคนบางประเทสได้เช่นกัน

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  holiday palace