ประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจของรองเท้ายี่ห้อConverse

ว่ากันว่ารองเท้าแบรนด์ Converse นั้นเป็นแบรนด์ตามที่สร้างขึ้นจากอเมริกา โดยแบรนด์นี้มีการจัดตั้งบริษัทมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1917 และผู้ที่มีความคิดริเริ่มจัดตั้งบริษัทรองเท้า Converse เป็น Marquis Mills Converse ทีแรกๆที่มีการผลิตรองเท้า Converseออกมานั้น

ทางบริษัทเน้นย้ำแนวทางการทำรองเท้าในการเล่นกีฬา โดยรองเท้า Converse ที่ผลิตออกมาเป็นสินค้าตัวแรกเป็น All Star ที่จะมีเครื่องหมายรูปดาวสีน้ำเงินในวงกลมพร้อมกันนั้นก็มีตัวหนังสือเขียนว่า Converseไว้ที่รองเท้าด้วย ซึ่งในปี ค.ศ. 1936 ถือได้ว่าเป็นปีทองคำของรองเท้าแบรนด์นี้เลยก็ว่าได้ไพเราะเป็นรองเท้าที่นักกีฬาทั้งโลกรู้จักรวมทั้งพวกเขามักจะสวมใส่เวลาเล่นกีฬากันมากมาย 

จนกระทั่งขนาดที่ว่าสำหรับในการแข่งกีฬาโอลิมปิกในปีนั้นนักกีฬาบาส นักบาสเก็ตบอลทุกคนต่างก็สวมรองเท้า Converse รุ่น Chuck Taylor All Star เว้นแต่รองเท้าแบรนด์นี้จะนิยมในกลุ่มนักกีฬาแล้วยังเป็นที่ชื่นชอบใส่กันในกลุ่มของทหารอีกด้วย 

โดยยิ่งไปกว่านั้นทหารในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 สำหรับรองเท้า Converse ได้รับความพึงพอใจมาอย่างช้านานและก็ถึงตอนหลังๆจะมีรองเท้ายี่ห้ออื่นเริ่มเปิดตัวมาเป็นคู่ปรปักษ์ แต่ว่าก็ยังเป็นที่นิยมอยู่ดีโดยในช่วงนั้นการแบ่งส่วนแบ่งทางการตลอดของรองเท้า แบรนด์ Converse ได้ส่วนแบ่งการตลาดมากมายสุดมากถึง 80% อย่างยิ่งจริงๆ แม้กระนั้นมาในตอนปี ค.ศ. 2001 บริษัทกำเนิดมีปัญหาจนกระทั่งเกือบจะที่จะล้มละลาย จนกระทั่งทางบริษัทยี่ห้อ Nike จำต้องเข้ามาช่วยเหลือ

โดยการเข้ามา เทคโอเว่อร์ รวมทั้งปรับปรุงต้นแบบรองเท้าให้มีความสวยสดงดงามมากขึ้นเรื่อยๆ สีสันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และก็วางแบบให้ผู้คนทั่วๆไปสวมได้ด้วยเว้นเสียแต่นักกีฬารวมทั้งทหาร หญิงและก็ชายสามารถใส่แล้วดูดีหมดทำให้ Converse กลับมาเป็นที่พอใจของทุกคนอีกที รวมทั้งถ้าเกิดคนไหนที่ไม่ใช่สาวกของรองเท้า Converseตัวจริงจะรู้สึกว่ารองเท้าแบรนด์นี้ไม่ค่อยมีอะไรแต่ว่าแตกต่างแต่ว่าชอบถูกใจมีชื่อเรียกที่แตกต่าง ด้วยเหตุนี้ พวกเราจะมาเสนอแนะแต่ละรุ่นว่ามีความไม่เหมือนกันอย่างไรบ้าง

  1. Chuck Taylor All Atar สำหรับรุ่นนี้แม้ว่าจะแก่มากยิ่งกว่า80ปีมาสุดแต่ก็ยังเป็นรุ่นคลาสสิกที่คนจำนวนมากนิยมสวมกันแบบไม่ตกเทรน เนื่องจากว่ารองเท้ารุ่นนี้จะใส่สบายและก็คงทน รวมทั้งมีชีวิตชีวาเรียบง่าย เหมาะสมกับการใส่กับชุดอะไรก็ได้ ตอนนี้มีทั้งยังแบบห่อหุ้มข้อแล้วก็แบบข้อสั้น
  2. Conns สำหรับรุ่นนี้จะย้ำเรื่องของน้ำหนักค่อยและก็ยึดเกาะพื้นก้าวหน้าได้รับความนิยมกันมากมายในตอนสมัย90
  3. Jack Purcell สำหรับรุ่นนี้จะเน้นย้ำของหัวข้อการรับน้ำหนักและก็การคุ้มครองการชนเนื่องจากว่ารุ่นนี้ดีไซน์มาเพื่อนักกีฬาแบดมินตันโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
  4. Chuck Taylor All Atar II สำหรับรุ่นนี้เป็นรุ่นเปลี่ยนแปลงมาจากรุ่นแรกรุ่นนี้จะน้ำหนักเบาใส่แล้วไม่เมื่อยล้าเท้า 

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  คาสิโนออนไลน์ฝากไม่มีขั้นต่ำ

เมืองลับแลเป็นเมืองลี้ลับ

เมืองลับแล

คนในจังหวัดอุตรดิตถ์มักจะได้ยินเรื่องเล่านี้มาบ้างไม่มากก็น้อย และเป็นเมืองที่มีตำนานเล่าขานให้ฟัง เมืองลับแลมีความเป็นอยู่คล้ายมนุษย์กึ่งเทพและกึ่งมนุษย์และบรรดาสัตว์เดรัจฉานก็ไม่สามารถเข้าไปอยู่ได้ และข้าวของเครื่องใช้ก็ใช้ด้วยการเนรมิตขึ้นมา และห้ามพูดปดโกหก ในบริเวณที่อยู่ในเมืองนี้

เมืองลับแลเป็นเมืองลี้ลับ

  เมืองลับแลเป็นเมืองที่ลี้ลับ มีทางเลี้ยงลดซับซ้อนกว่าจะเข้าไปถึงได้ และผู้คนในหมู่บ้านจะเป็นหญิงม่ายเป็นส่วนใหญ่ และจะยึดมั่นในความดี มีศีลธรรมและวาจาสัตว์เป็นหลัก และต่อมาได้มีผู้ชายคนหนึ่งเดินหลงป่ามาได้เห็นผู้หญิงหลายคนเดินออกมา ด้วยความสงสัยและอยากรู้จึงเดินตามพวกผู้หญิงและได้หลงเข้าไปในเมืองลับแลนั้น และได้เห็นว่าเมืองนี้มีแต่ผู้หญิง และได้เกิดรักใคร่ชอบพอกับผู้หญิงในหมู่บ้านคนหนึ่งและได้อยู่กินกันตามประสา ผัว เมีย และฝ่ายหญิงขอสัญญาจากฝ่ายชายว่าห้ามพูดเท็จ ฝ่ายชายก็ตกลง

และทั้งสองก็อยู่กินกันอย่างมีความสุข จนกระทั่งมีลูกด้วยกันคนหนึ่ง วันหนึ่งฝ่ายหญิงได้ออกไปเก็บผักหาฟื้น และลูกก็ร้องไห้ด้วยความหิวนม ผู้เป็นพ่อไม่รู้จะทำอย่างไร จึงได้บอกลูกว่าแม่กลับมาแล้ว ลูกจึงหยุดร้องไห้ และเมื่อภรรยาทราบว่า สามีของตัวนั้นโกหก จึงต้องให้สามีออกจากเมืองลับแลนี้ไป

ชาวบ้านต่างก็มาไล่ให้ผู้เป็นสามีออกไป นางจึงเกิดความสงสารสามีจึงหยิบขมิ้นใส่กระเป๋าจนเต็มให้สามีไปด้วย แต่ด้วยระยะการเดินทางนั้นไกล สามีจึงหยิบขมิ้นนั่นทิ้งไปตลอดทางจนเหลือหัวเดียว เมื่อตนมาถึงบ้านจึงหยิบขมิ้นที่เหลือนั่นออกมา พบว่ากลายเป็นทอง และจึงได้วิ่งกลับมาคิดจะเก็บขมิ้นที่ทิ้งไปแล้ว แต่ก็ไม่พบขมิ้นนั้นเลย

ตำนานเมืองลับแล

ในสมัยก่อนนั้นเมืองลับแลเป็นป่าชุกชุมไปด้วยสัตว์มากมาย และนายพรานที่สามารถเข้าไปได้ นั้นต้องมีวิชาแกร่งกล้า แต่ก็มีเรื่อเล่าเมื่อได้เข้าไปแล้วไม่มีพรานคนไหนออกมาได้อีกเลยต่างก็สูญหายกันไปหมด และได้มีการเล่าว่าเมื่อนายพรานเข้าไปแล้วจะมีผีป่า มาจำแลงกายมาเป็นสาวงามมาล่อลวงนายพรานและถูกกินเป็นอาหารแก่ผีป่ากันหมด และต่อมาได้มีนายพรานที่มีวิชาอาคมหรือจอมขมังเวทได้ชักชวนเพื่อนอออกไปล่าสัตว์อีกสองคน จึงมีเพื่อนเดินทางสามคนและก็ได้หลงเข้าไปในป่าของเมืองลับแล

และก็ได้ถูกผีสาวหลอกไปกินถึงสองคน ส่วนอีกคนหนึ่งนั้นได้ถูกผีสาวนำเข้าไปอยู่ในถ้ำ และได้เอาทำสามีเมื่อผีสาวออกไปหาอาหารก็จะทำการปิดถ้ำไว้เพื่อไม่ให้สามีของตนไปไหน อยู่กันมาไม่นานก็ได้เกิดมีลูกด้วยกันเมื่อถึงเวลาที่ผีสาวจะออกไปหาอาหารกิน ลูกก็ได้เล่นอยู่บริเวณหน้าปากถ้ำและได้ทำก้อนหินถูกปากถ้ำ

ปากถ้ำจึงเปิดออกชายหนุ่มจึงวิ่งหนีออกมาได้และเมื่อผีสาววิ่งตามชายหนุ่มจึงโดดลงหลุม ผีสาวนึกว่าชายหนุ่มตายจึงได้ จึงได้โยนถุงย่ามให้สามีเอาไว้ใช้ในเมืองผี และเมื่อชายหนุ่มหนีรอดออกมาได้จึงได้เปิดถุงย่ามดูเป็นทอง จึงได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับต้นให้บรรดาญาติพี่น้อง และเพื่อนพ้องฟัง

 

สนับสนุนโดย  เว็บบาคาร่าฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ

ประเพณีวันสงกรานต์

วันสงกรานต์เป็นเทศกาลที่ทุกคนรู้จักกันมาตลอด เป็นการเล่นน้ำสาดน้ำกัน แต่คนสมัยก่อนเรียกว่าวันปีใหม่ไทย เป็นเทศกาลที่มีการเล่นกันมานานมากได้รับความนิยมมากเลยทีเดียว เป็นเทศกาลหนึ่งที่ทุกคนให้ความสำคัญซึ่งเป็นเทศกาลที่ทุกคนจะได้กลับบ้านไปหาครอบครัว ถือว่าวันสงกรานต์เป็นเทศกาลที่ทำให้ทุกคนได้กลับบ้านมาร่วมกันพร้อมหน้าพร้อมตาได้หยุดพักผ่อนอยู่บ้านกับครอบครัว 

สงกรานต์ถือว่าเป็นวันครอบครัววันรวมญาติพี่น้อง ทุกคนจะพากันมากราบไหว้ผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ รดน้ำดำหัวขอพรจากผู้ใหญ่กัน เทศกาลสงกรานต์นั้นก็มีกิจกรรมที่นิมทำกันมาตลอด มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

กิจกรรมรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่  ถือว่าทุกคนให้ความสำคัญกับกิจกรรมนี้เป็นการไปกราบไหว้ขอพรรับพรจากผู้ใหญ่ที่เรานับถือ โดยการนำพวงมาลัยหรือว่าดอกไม้พร้อมกับน้ำไปไหว้ให้ท่านรดน้ำดำหัวให้ เป็นสิริมงคลในการดำเนินชีวิตให้มีโชคลาภ

การทำบุญตักบาตร  เทศกาลสงกรานต์ถือว่าหลายคนกลับไปก็อยากทำบุญกับครอบครัว คนส่วนใหญ่นิยมนำอาหารไปตักบาตรกันที่วัด เป็นการสร้างบุญกุศลให้กับคนที่ล่วงลับไปแล้ว ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ลูกหลานรู้จักการทำบุญให้ทานไปด้วย

กิจกรรมก่อเจดีย์ทราย  เป็นกกิจกรรมที่ทำกันมานานสมัยนี้บางวัดก็มีทำกันอยู่ โดยจัดให้คนนำทรายมาคนละถังมาเพื่อก่อเจดีย์เป็นรูปกัน เป็นกิจกรรมที่สร้างความสุขให้เรานั้นมีรอยยิ้มได้   การนำทรายเข้าวัดคนสมัยก่อนถือว่าเป็นการสร้างเงินสร้างทองให้กับตนเอง ให้ชีวิตพบแต่ความสุข

การสรงน้ำพระ  โดยที่ทุกบ้านในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์จะนำพระในบ้านออกมาทำความสะอาด และนำตั้งไว้เพื่อให้ทุกคนในบ้านได้รดน้ำพระ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ครอบครัวเรา การสรงน้ำพระสมัยนี้สามารถเห็นได้หลายที่ก็มีการจัดทำกัน สามารถไปรดน้ำกันได้เช่นกัน

การเล่นน้ำสงกรานต์  เป็นกิจกรรมที่ทุกคนให้ความสำคัญมาก ที่ทุกคนสามารถสาดน้ำปะแป้งกันได้ ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ช่วยคลายความร้อนไปในตัว สร้างความชุ่มชื้นให้กับทุกคนที่เล่นน้ำ  ถือว่าเป็นกิจกรรมที่สร้างความนิยมให้กับคนไทยและต่างชาติได้เล่นสนุกสนานกันเลยทีเดียว

             เทศกาลวันสงกราต์ถือว่าทุกคนให้ความสำคัญมากเลยทีเดียว ซึ่งหลายคนก็รอถึงวันนี้จะได้กลับบ้านกัน เป็นเทศกาลที่ควรอนุรักษ์สืบสานต่อกันไปให้มีวัฒนธรรมที่งดงาม เป็นเทศกาลดีที่ทุกคนได้ทำบุญอยู่กับครอบครัว วันสงกรานต์ถือว่าเป็นเพณีไทยที่ทุกคนควรช่วยกันอนุรักษ์ไว้

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  gclub

เหตุผลที่ทำไม พระแก้วมรกตจึงมีเครื่องทรงให้เปลี่ยนมากถึง 3 ฤดู

 เชื่อว่าในที่นี้คงไม่มีใครที่จะไม่รู้จักกับพระแก้วมรกต พระพุทธรูปที่มีรูปองค์สีเขียวตลอดทั้งองค์ ซึ่งตลอดทั้งองค์ของพระแก้วมรกตนั้นทำมาจากหยก

และเป็นหยกก้อนเดียวกันทำให้องค์ของพระแก้วมรกตนั้นไม่มีรอยต่อที่องค์พระพุทธรูปเลย ตามประวัติของพระแก้วมรกตนั้นมีอายุมานานหลายร้อยปี เคยประดิษฐานอยู่ที่เชียงใหม่ และเวียงจันทร์มาก่อน ก่อนที่จะถูกอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งปัจจุบันวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางของกรุงเทพนั่นเอง โดยตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันแล้วพระแก้วมรกต ถือได้ว่าเป็นพระพุทธรูปที่ประชาชนให้ความเคารพนับถือกันเป็นอย่างมาก

ซึ่งสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 1 ท่าน ได้สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานีหรือก็คือเมืองหลวงนั่นเอง โดยท่านได้สั่งให้มีการสร้างพระราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดารามไว้ในเขตพื้นทีของพระบรมมหาราชวัง โดยมีการสั่งให้สร้างวัดไว้ใกล้กับวัง และเมื่อสร้างวัดเสร็จแล้ว รัชกาลที่ 1 ก็ได้อัญเชิญพระแก้วมรกตมาไว้ที่โบสถ์ หลังจากนั้นก็ทรงมีรับสั่งให้สร้างเครื่องทรงขึ้นมาจำนวน 2 ชุดเพื่อถวายแด่พระแก้วมรกต

โดยชุดแรกคือชุดฤดูร้อน ส่วนชุดที่สองคือ ชุดฤดูฝน ซึ่งเครื่องทรงของพระแก้วมรกตจะถูกสร้างมาจากทองคำทั้งสิ้น เมื่อมีการสร้างเครื่องทรงเสร็จแล้ว พระองค์จึงถวายเป็นพุทธบูชา และต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3  พระองค์ได้ทรงสั่งให้มีการสร้างชุดเครื่องทรงให้กับพระแก้วมรกตเพิ่มอีกจำนวน 1 ชุดเป็นเครื่องทรงสำหรับเอาไว้เปลี่ยนในช่วงฤดูหนาว

นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม พระแก้วมรกตจึงมีเครื่องทรงให้เปลี่ยนถึง 3 ชุดซึ่งสามารถเปลี่ยนได้ทุกฤดูกาล ซึ่งหลังจากที่พระแก้วมรกตมีเครื่องทรงที่ทำมาจากทองคำทั้ง 3 ชุดแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3 จึงได้ทรงโปรดให้มีการกำหนดพระราชพิธีให้มีการเปลี่ยนเครื่องทรงทั้ง 3 ชุดให้กับพระแก้วมรกตด้วย โดยจะให้ใส่สลับกันไปทุกฤดู ซึ่งการเปลี่ยนเครื่องทรงให้กับพระแก้วมรกตนั้นจะต้องเป็นพระมหากษัตรแห่งราชวงศ์จักรีเท่านั้นในการที่จะเปลี่ยนเครื่องทรงให้พระแก้วมรกต

ยกเว้นว่าพระมหากษัตรไม่ว่าติดราชกรณียกิจ จึงจะให้เหล่าเชื้อพระวงศ์มากระทำหน้าที่เปลี่ยนเครื่องทรงให้กับพระแก้วมรกตแทน ซึ่งกำหนดวันที่จะมีการเปลี่ยนเครื่องทรงให้กับพระแก้วมรกตมีดังนี้

  1. ชุดฤดูร้อนจะเปลี่ยนประมาณเดือนมีนาคม โดยจะทำในวันแรม  1 ค่ำ เดือน4 
  2. ชุดฤดูฝนจะเปลี่ยนประมาณเดือนกรกฎาคมโดยจะทำในวันแรม 1 ค่ำเดือน 8 
  3. ชุดฤดูหนาวจะเปลี่ยนประมาณเดือนพฤศจิกายน โดยจะทำในวันแรม 1 ค่ำเดือน 12 

   ในช่วงสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เมื่อถึงกำหนดต้องเปลี่ยนเครื่องทรง ทางกรมธนารักษ์ซึ่งมีหน้าที่ดูแลรักษาเครื่องทรง ได้เห็นว่าเครื่องทรงของพระแก้วมรกตมีอายุมาหลายร้อยปีแล้วและได้รับความเสียหายจนไม่สามารถที่จะซ่อมได้ จึงได้ทำการขออนุญาตรัชกาลที่ 9 เพื่อจัดทำเครื่องทรงทั้ง 3 ชุดขึ้นมาใหม่และเมื่อทำเสร็จทางกรมธนารักษ์ก็จัดถวายรัชกาลที่ 9 เนื่องในวโรกาสที่ท่านขึ้นครองราชย์ครบรอบ 50 ปีพอดีซึ่งชุดดังกล่าวยังมีการใช้มาจนถึงปัจจุบัน

การทอดกฐิน

 

การทอดกฐินนี้ถือเป็นประเพณีหนึ่งของคนไทย โดยการนำผ้ามาถวายแก่พระภิกษุ ที่ได้จำพรรษามาครบ สามเดือนและการทอดกฐินจะทำได้แค่ปีละครั้งเท่านั้น จะทำพิธีทอดกฐินหลังจากออกพรรษาแล้ว มีระยะเวลาในการรับกฐินได้หนึ่งเดือน นับจากวันออกพรรษาจนถึงวันลอยกระทง จะทำก่อนหรือหลังวันที่กำหนดนี้ไม่ได้เป็นอันขาด จึงเรียกช่วงนี้ว่าเทศกาลกฐิน ในสมัยก่อนการทอดกฐินคือการที่ชาวบ้านนำผ้าที่ทำไว้เพื่อจะไปถวายพระ แต่ไม่สามารถเจาะจงได้ว่าพระรูปไหน จึงได้นำผ้าที่เตรียมไว้ไปวางพาดบนต้นไม้ และเมื่อมีพระภิกษุสงฆ์รูปไหนมาเจอ ก็เก็บผ้านั้นนำไปใช้ได้เลย

กฐินมีอยู่ 2 ประเภท คือ กฐินหลวง กับ กฐินราษฎร์

กฐินหลวง 

ผ้ากฐินด้วยพระองค์เอง หรือบางที่ก็จะส่งตัวแทนพระองค์ไป ไม่ว่าจะเป็นวัดบวรนิเวศวิหาร วัดราชาธิวาส วัดอรุณราชวราราม วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เป็นต้น กฐินหลวงยังแบ่งได้อีก2ประเภท กฐินพระราชทาน เป็นกฐินที่หน่วยงานราชการและคณะบุคลที่สำคัญ ที่สามารถ มาทูลขอผ้ากฐินของหลวงได้ แต่จะต้องทำเรื่องในการขอผ้ากฐินล่วงหน้า ต้องติดต่อไปยังกรมการศาสนาของกระทรวงวัฒนธรรมมิฉะนั้นก็จะไม่ได้ และจะต้องเป็นวัดหลวงในจังหวัดเท่านั้นถึงจะทูลขอได้ กฐินต้น เป็นกฐินที่พระเจ้าอยู่หัวทรงนำผ้าไปทอดกฐินด้วยพระองค์เอง แต่ไปอย่างไม่เป็นทางการ และจะไม่ใช่วัดหลวง เป็นการทำส่วนพระองค์เอง

กฐินราษฎร์ 

เป็นกฐินที่ประชาชนได้ทำการนำผ้าไปถวายตามวัดต่างๆ ยกเว้นวัดหลวงที่เข้าไปถวายผ้าไม่ได้ ส่วนกฐินราษฎร์ยังสามารถเรียกได้อีกหลายอย่างกฐินสามัคคี คือกฐินที่เกิดจากการรวมใจของชาวบ้าน ที่มีจุดประสงค์เดียวกันที่จะนำผ้ากฐินไปถวายวัดใด วัดหนึ่ง การทอดกฐินยังสามารถแยกได้อีกอย่างเช่นจุลกฐิน คือการทำกฐินแบบรีบเร่งและต้องทำให้จบในวันเดียว มหากฐิน คือการทอดกฐินในวัดที่ตัวเองศรัทธาเป็นพิเศษและจะถวายของใช้รวมได้ด้วย กฐินตกค้าง คือการทอดกฐินตามวัดที่ไม่ค่อยมีคนไปถวายผ้ากฐิน และผู้มีจิตศรัทธาในศาสนาก็จะตามหาวัดเหล่านี้ เพื่อจะนำถวายผ้ากฐินแต่ส่วนมากจะทำใกล้หมดเทศกาลทอดกฐิน

การทอดกฐินถือได้ว่าเป็นการทำบุญที่ได้กุศล ผลบุญดีเพราะการทอดกฐินนี้จะทำได้แค่ปีละครั้งเท่านั้น และยังทำให้ชาวบ้านรักใคร่ร่วมมือร่วมใจกันจัดงานถวายกฐินและการทอดกฐินนี้ทำได้ทุกภาค ทุกจังหวัดไม่ถือว่าเป็นประเพณีที่สำคัญของภาคใดภาคหนึ่ง

ถ่ายภาพให้ดีต้องรู้จักและปรับปรุงตัวเอง

เชื่อว่าหลายๆ คนนั้นชอบการถ่ายภาพ ถ้าหากคุณเป็นคนที่ชอบถ่ายภาพเพียงเพราะอยากจะถ่ายแล้วลงโซเชียล หลังจากนั้นก็ลบไปมันคงจะไม่มีอะไรมากสักเท่าไหร่ แต่ถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบการถ่ายภาพ และอยากที่จะถ่ายภาพออกมาให้สวยไม่ใช่แค่สำหรับตัวของคุณเอง

แต่ยังสวยสำหรับคนอื่นอีกด้วยนั้น ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงการที่ทำให้คุณได้พัฒนาฝีมือการถ่ายภาพของคุณให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น การที่คุณจะถ่ายภาพให้สวยได้นั้นมันไม่เป็นต้องมีตัวใหญ่ๆ หรือกล้องราคาตัวแพงๆ ท๊อปๆ หรอก ถ้าคุณไม่ได้อยากเป็นมืออาชีพหรือทำงานในสายนี้

แค่กล้องโทรศัพท์มันก็เพียงพอแล้ว โดยบทความนี้นั้นเราไม่ได้ส่งถึงคนที่เริ่มฝึกถ่ายภาพ หรือมือสมัครเล่นเท่านั้นนะ ใครที่มีความสนใจทางด้านการถ่ายภาพจนสมัครเรียนถ่าย หรือเรียนในมหาวิทยาลัยด้านวิชาการถ่ายภาพอยู่ ก็สามารถมาทำความเข้าใจกันได้ ซึ่งเรื่องที่เราจะพูดถึงนั้นคือ การเข้าใจและรู้จักปรับปรุงตัวเอง

แน่นอนว่าการเข้าใจตัวเองนั้นคือ คุณจะต้องลองทำมันก่อนว่ามันเป็นสิ่งที่คุณชอบหรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่สนใจแต่ไม่ได้ถึงขั้นที่จะต้องทดลองทำ อย่างการถ่ายภาพคุณอาจจะมองว่า ใครก็สามารถถ่ายได้กันทั้งนั้น มันเป็นอย่างนั้นจริงหรือ? ลองคิดดูนะว่าในกลุ่มเพื่อนของคุณจะต้องมีสักคนใช่หรือไม่ที่คุณเปรียบเสมือว่าเข้าเป็นช่างภาพประจำตัว เพราะเขาคนนั้นถ่ายภาพถูกใจของคุณ เห็นแล้วใช่หรือไม่ว่ามันสำคัญอย่างไร

แต่เอาเถอะเราข้ามไปเรื่องที่ว่า ถ้าคุณคือคนหนึ่งที่สนใจในการถ่ายรูปและพร้อมที่จะเรียนทำความเข้าใจกับมันให้มากขึ้น สิ่งแรกเลยคือ คุณต้องกล้าที่จะได้คำติชมหรือคำวิจารณ์ แน่นอนว่าการถ่ายภาพให้ตามใจเรานั้นเราต้องมองว่าสวยอยู่แล้ว เพราะเรานั้นเป็นคนถ่ายเอง

แต่ในทางกลับกันคนอื่นที่ไม่ใช่คุณเขาอาจจะมองว่า ภาพที่คุณถ่ายนั้นไม่สวย หรือมีจุดบกพร่อง สิ่งแรกเลยคือคุณอาจจะต้องทำความเข้าใจของคำวิจารณ์เหล่านั้น เพราะหลายคนเลือกที่จะมองข้ามและโต้ตอบด้วยการที่ว่า “มาถ่ายเองเลยไหม” ต้องบอกเลยว่าไม่ควรอย่างยิ่ง เพราะถ้าเขาถ่ายภาพได้สวยเขาคงจะไปเองแล้ว แต่ขณะที่เราเองนั้นคือบุคคลที่เรียนรู้หรือต้องการฝึกความสามารถด้านนี้ให้เพิ่มมากขึ้น

เราก็ควรที่จะยินดีดีรับฟังสิ่งเหล่านั้นเอาไว้ ไม่ว่าสุดท้ายแล้วเราจะเห็นด้วยหรือเห็นต่าง อย่างน้อยแล้วมันทำให้ทราบว่า มุมมองบางมุมมองของแต่ละคนนั้นมีความแตกต่างกัน เพื่อตัวเราเองที่จะเข้าใจคนอื่นมากขึ้น และตัวเราเองก็จะพัฒนาเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  คาสิโนฝากขั้นต่ำ 20 บาท

การเลือกปลุกต้นไม้ในบริเวณบ้านให้ถูกหลักฮวงจุ้ย 

เชื่อว่าหลายหลายคนคงรักการปลุกต้นไม้เป็นชีวิตจิตใจแต่การปลุกต้นไม้ในบริเวณบ้านของตัวเองนั้นก็ควรจะดูฮวงจุ้ยให้เหมาะสมด้วยเพราะการปลุกต้นไม้โดยไม่ดูทิศทางลมก็มีผลทำให้บ้านมีแต่ความร้อนลุ่มดังนั้นหากต้องการให้คนในบ้านมีแต่ความสุขความเจริญมีแต่ความรุ่งเรืองรุ่งโรจน์ก็ควรจะเลือกจุดที่ปลุกต้นไม้แล้วเป็นการเสริมสร้างบารมีให้กับคนภายในบ้านให้ความรุ่งโรจน์รุ่งเรืองสืบต่อไป 

คุณรู้หรือไม่ว่าการปลุกต้นไม้ที่ดีควรจะปลูกไว้ตรงมุมไหนของบ้านบ้างวันนี้เราจะมาแนะนำข้อมูลดีดีให้คุณทราบกันค่ะ 

1 หลายคนอยากสร้างบ้านเพื่อให้บ้านมีความแตกต่างจากบ้านของคนอื่นและมีความร่มรื่นของต้นไม้บางคนปลูกต้นไม้ไว้กลางบ้านซึ่งการปลุกต้นไม้ไว้กลางบ้านไม่ใช่ผลดีกับฮวงจุ้ยของบ้านเลยเพราะมันจะส่งผลเกี่ยวกับเรื่องของการเงินของคนภายในบ้านดังนั้นหากใครที่มีการปลูกต้นไม้ไว้กลางบ้านควรตัดต้นไม้ทิ้ง 

2เชื่อว่าหลายคนมักจะมีการปลูกต้นไม้ไว้หน้าบ้านซึ่งหากปลุกไว้ด้านข้างก็จะไม่มีปัญหาอะไรแต่ถ้าหาบ้านหลังไหนปลุกต้นไม้ไว้ขวางประตูทางออกเข้าบ้านจะเป็นการเหมือนปลุกต้นไม้ขวางทางเข้าออกของเงินซึ่งจะเน้นเป็นการขวางทางเข้ามากกว่าทางออกจะได้ซ้ำดังนั้นถ้าอยากให้มีเงินทองไหลเข้าบ้านเยอะเยอะห้ามปลูกต้นไม้ขวางประตูทางออกเข้าบ้านหรือถ้าหากว่าปลุกไปแล้วก็ควรจะตัดทิ้งซะ 

3การปลุกต้นไม้หากปลูกไว้หลังบ้านจะช่วยเสริมสร้างพลังงานเป็นแรงผักดันหนุนหลังให้บ้านมีความมั่นคงแข็งแรงให้มีเงินทองไหลมาเทมาดังนั้นการปลุกต้นไม้ไว้หลังบ้านจึงเป็นทิศทางที่ดีแต่การปลุกต้นไม้ที่ดีห้ามปลูกติดกับบ้านจนเกินไปอย่าให้กิ่งใบของต้นไม้มาชนกับหลังคาบ้านหรือตัวบ้านเพราะจะทำให้เงินทองที่สะสมไว้ไหลไปกับใบไม้และกิ่งไม้ดังนั้นหากต้นไม้มีขนาดใหญ่และมีการยืนกินก้านเข้ามาใกล้กับบริเวณบ้านจึงควรมีการตัดตบแต่งกิ่งไม้ให้เรียบร้อยสวยงาม 

4การปลูกต้นไม้ที่ดีควรปลูกทั้งสองฝั่งซ้ายขวาของบ้านอย่าปลุกเฉพาะฝั่งใดฝั่งหนึ่งเพราะการปลุกต้นไม้ทั้งสองฝั่งจะเป็นการเสริมสร้างพลังงานเชิงบวกให้กับบ้านทั้งสองฝั่งได้ดังนั้นถ้าปลูกฝั่งเดียวอีกฝั่งหนึ่งก็จะไม่ได้รับพลังงาน +ซึ่งพลังงานบวกที่บ้านจะได้รับนี้จะส่งผลให้กับคนในบ้านมีความเป็นอยู่ที่ดีสุขภาพร่างกายแข็งแรงและร่ำรวยเงินทองดังนั้นถ้าไม่อยากให้ครอบครัวมีปัญหาควรปลูกต้นไม้ไว้ทั้งสองฝั่งของตัวบ้าน

ประวัติศาสตร์ในการค้นหาของมีค่าที่หายไป

ของมีค่าของกษัตริย์ที่ยังไม่ถูกค้นในพื้นที่หลายๆแห่งอีกทั้งก็ยังไม่สามารถทำการค้นหาได้เนื่องด้วยไม่รู้ว่าสิ่งที่สมบัตินั้นได้จมไปนั้นมันอยู่ที่ใดและสมบัติแต่ละหีบนั้นก็มีของมีมูลค่ามากมายที่ไม่สามารถระบุราคาได้ที่ยังต้องรอคอยการค้นพบอยู่ในปัจจุบัน

สมบัติบนเรือSan Miguel มีเพียงสองสิ่งในอดีตเท่านั้นที่จะสามารถจมเรือได้หนึ่งคือสงครามและสองคือพายุพายุเฮอริเคนเป็นเช่นเดียวกันกับของเรืออื่นๆที่โดยพายุเฮอริเคนจมเรือทั้งลำแม้ว่ามันจะเป็นหนึ่งในบันดานเรือเดินทางพร้อมๆกันในการรวบรวมสมบัติจากหลายแห่งเพื่อระดมทุนจัดทัพทำสงครามของประเทศสเปนซานมิเกลเป็นเรือลำเล็กแต่ด้วยความที่มันเล็กจนจึงได้เร็วกว่าเรือชนิดอื่นๆ

และนั่นเองมันจึงเลยถูกจัดเป็นเรือขนส่งสิ่งสำคัญและล้ำค่าที่สุดในการขนส่งกิจเพื่อจัดทัพทำสงครามของสเปนนี้ได้เริ่มต้นในปี1175และในตามแผนของพวกเขาก็คือต้องการที่จะรอเวลาที่ไกล้กับเวลาเฮอริเคนมากที่สุดเรียกได้ว่าจะออกเดินทางก่อนพายุเฮอริเคนจะมาแบบชิตๆ

เพื่อให้รอดพ้นจากสายตาโจรสลัดที่มีในอดีคแต่อาจจะเป็นเพราะในการคำนวนที่ผิดพลาดนั้นการเดินทางที่ล่าช้าหรือสภาพอากาศในสมัยก่อนยังไม่แม่นยำจึงทำให้พายุเฮอริเคนตามหลังและตามมาทันเรือทั้งหมดและได้จมเรือทุกลำในการขนส่งนี้ตามคาดจากสายตาโจรสลัดได้และแน่นอนว่าไม่มีใครบนโลกนี้สามารถเห็นสมบัติด้วยเหมือนกันหลังจากที่พายุนั้นได้สงบจากนั้นก็ได้มีการหาสมบัติที่ศูนย์หายไปและได้ถูกค้นพบเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น

ส่วนเรืออนั้นสามารถพบเห็นได้6-7ลำแต่ก็ยังเหลืออีกหนึ่งเรือนั้นที่ไม่สามารถพบเห็นได้ซึ่งเป็นเรือลำเล็กที่สุดเร็วที่สุดและบันทุกของมีค่ามากที่สุดด้านซานมิเกลก็ยังรอคคอยในการค้นพบมาจนถึงทุกวันนี้

มงกุฏเพชรของพระเจ้าจอห์นแห่งอังกฤษ

มงกุฏเพชรของราชวงอังกฤษได้รับการยอมรับเป็นอัญมณีที่มีค่ามากที่สุดมงกุฏเพชรของราชวงถูกเก็บไว้อยู่ภายใต้ความปอดภัยที่หอคอยลอนดอนโดยมีเจ้าหน้าที่คอยดูอย่างหนาแน่นที่ผ่านมามงกุฏเพชรของกษัตริย์อังกฤษก็ได้ถูกขโมยและถูกทำลายมาหลายครั้งแล้วแต่สำหรับมงกุฏเพชรกษัตริย์King Johnได้

ศูนย์หายไปในปี2016เมื่อกษัตริย์King Johnของพระองค์มาจากแขวงวอเซและพยายามข้ามแม่น้ำโซเฟียเป็นเพราะพระองค์ได้คำนวนพลาดไปจึงได้หายเสียสัมภาระที่นำมาจมลงไปกับสายน้ำรวมทั้งหีบที่เก็บของมีค่าทั้งหมดด้วยจากนั้นก็ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมาเพราะเสียใจที่สมบัติหายเพราะว่าประมูลค่าไม่ได้พระองค์ก็ได้เสียชีวิตในเวลาดังกล่าว

ชายแดนที่เชื่อมต่อในระหว่างสองประเทศ

ชายแดนนั้นเราไม่เคยได้รู้มาก่อนว่าในแต่ละประเทศนั้นมีความความหมายกันอย่างไร

และแต่ละเขตชายแดนนั้นมีเส้นทางที่ยากลำบากสักแค่ไหนซึ่งเราเองก็ยังไม่เคยพบเห็นว่าระหว่างแนวเขตชายแดนนั้นป็นอย่างไร

หมู่เกาะดีโอเมดระหว่างประเทศรัสเซียกับสหรัฐอเมริกา  หมู่เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่ในทะเลสาบอารัฐกล้าซึ่งจะมีเพียงแค่สองเกาะซึ่งก็คือเกาะดีโอเมดใหญ่เกาะดีโอเมดเล็กซึ่งมีระยะทางห่าง3.8กิโลเมตรจะยืนอยู่เกาะใหญ่หรือเกาะเล็กก็สามารถมองเห็นกันได้อย่างสบายและถ้าหากจะนั่งเรือไปอีกฝั่งก็ใช้เวลาแค่เพียง10นาทีเท่านั้นแต่ที่เป็นประเด็นคือเกาะทั้งสองนี้อยู่คนละประเทศโดยหมู่เกาะพี่ใหญ่อยู่ในเขตแดนของประเทศรัสเซีย

ส่วนในเกาะน้องเล็กอยู่ในหมู่เกาะประเทศสหรัฐอเมริกาดังนั้นหากดูตามโซนแล้วเวลาในเกาะดีโอเมดใหญ่จะเร็วกว่าเวลาของน้องเล็กต้อง21ชั่วโมงนั่นก็หมายความว่าถ้าเรานั่งเรือจากเกาะพี่ใหญ่ไปเกาะน้องเล็กจะใช้เวลาเดินทางเพียงแค่10นาทีแต่เหมือนกับว่ากำลังย้อนเวลาไปเมื่อวานนั่นเองทำให้เกาะดีโอเมดเล็กมีอีกชื่อว่าเกาะเมื่อวานและแน่นอนว่าเกาะดีโอเมดใหญ่ก็ได้สมญานามว่าเกาะพรุ่งนี้เพราะเดินทางจากเกาะน้องเล็กไปหาพี่ใหญ่ก็เท่ากับว่าทะลุมิติไปอนาคตเลยหืมฟังดูแล้วมันน่าตื่นใจดีจัง

อนุสาวรีย์พระเยซูแห่งเทือกเขาแอนดิสระหว่างประเทศชิลีกับอาร์เจนตินา 

ซึ่งรูปปั้นของพระเยซูในกลางชายแดนนี้ถูกสร้างขึ้นในปี1904เพื่อเฉลิมฉลองการยุติข้อพิพาทในทางชายแดนระหว่างชิลีกับอาร์เจนตินาซึ่งก็ได้เป็นไปอย่างสันติแต่เส้นทางที่ต้องสันจรเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของภาพนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ใช้เส้นทางท่สันติภาพต่อสังขารมนุษย์เท่าไหร่นักถึงแม้ว่าเส้นทางที่ไปสู่รูปปั้นที่แยกจากถนนหลักทั้งสองประเทศจะมีระยะทางแค่ฝั่งละ8กิโลเมตรครึ่งเท่านั้น

แต่ด้วยทางที่คดเครียวและลาดชันทำให้ต้องใช้เวลาเกือบชั่วโมงกว่านอกจากจะเคยได้ยินคำว่าเมาไม่ขับแล้วแต่ถ้าได้ไปที่นั่นแล้วก็อาจจะกลายเป็นว่าขับเข้าไปแล้วอาจจะเมาออกมาก็ได้นะแต่แล้ว

หากว่าคุณนั้นจะเป็นนักขับมืออาชีพพร้อมที่จะลุยขนาดไหนก็ช่างเถอะเราก็อยากจะขอแนะนำให้ในช่วงฤดูหน้าร้อนเพียงเท่านั้นซึ่งเพราะในช่วงของฤดูหนาวนั้นจะมีอุณหภูมิต่ำสุดถึงติดลบ3องศาอีกทั้งยังเสี่ยงต่อการเจอหิมะตกลงมาได้อย่างง่ายๆแต่อย่างไรก็อย่าลืมดูอากาศดีๆหากฝนตกถนนจะลื่นมากและยังไม่รวมพายุเข้านะแค่ฟังก็ลำบากแล้ว

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  ทดลองเล่น gclub

เมืองเชียงคานเป็นที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาด

สำหรับขาเที่ยวนั้นแนะนำเลยว่าเมืองเชียงคานเป็นที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาด

ถ้าจะนึกถึงแหล่งที่ท่องเที่ยวริมแม่น้ำโขงนั้น สำหรับเชียงคานนั้นเองก็เป็นอีกแหล่งที่เที่ยวหนึ่งที่เหล่าบรรดานักท่องเที่ยวไม่ควรจะพลาดกับบรรยากาศที่เป็นกลิ่นไอในความเป็นพื้นบ้านมาก

ซึ่งเป็นวิถีชีวิตที่มีความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายมาก อีกทั้งยังเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ ที่จะชวนให้พวกคุณนั้นจะต้องหลงไหลไปกับสายน้ำที่เป็นธรรมชาติและชีวิตของสองแม่น้ำฝั่งโขงและยังมีวัฒนธรรมซึ่งผสมผสานกันได้อย่างลงตัวมาก ซึ่งมันจะดูเป็นเมืองที่เล็กๆแต่ก็เต็มไปด้วยความงดงาม ซึ่งเหมาะกับสำหรับคนที่จะต้องการเที่ยวกันแบบชิลๆหรือจะเป็นช่วงวันหยุดงานหรือไปเที่ยวพักผ่อนและใช้ชีวิตในแบบที่ไม่ได้เร่งรีบอะไรมากนักเหมือนกับเราอยู่ในเมืองหลวง

กลืนกินไปกับวัฒนธรรมต่างๆและสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งมันจะทำให้คุณนั้นสนุกกันไปได้ตลอดทั้งทริป

  1. สถานที่ท่องเที่ยวที่แรกนั้นที่คุณควรไปสำหรับในเชียงคานนั้นคือ  ภูทอก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ทุกคนนั้นไม่ควรพลาด เนื่องจากจุดนี้มันจะเป็นจุดซึ่งมีอากาศดีที่ดีมากอีกทั้งยังสามารถรับชมความงดงามของทะเลหมอกได้ในตอนเช้าได้อีกด้วย  
  2. สถานที่ต่อมาเป็นวัดศรีคูเมือง  ซึ่งวัดศรีคูเมืองนั้นเป็นวัดที่เก่าแก่สำหรับคู่เมืองเชียงคาน แล้วยังเป็นสถานที่รวมศิลปะล้านช้างและล้านนารวบรวมไว้ในที่เดียวกันแล้วถ้าใครได้ไปเที่ยวเชียงคานแล้วนั้น ก็ควรไปสักการะซักครั้ง               ให้เป็น ศิริมงคลแก่ชีวิต
  3. แก่งคุดคู้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ซึ่งน่าไปอย่างมาก เป็นสถานที่ที่เรานั้นจะได้มองเห็นวิวต่างๆทั้งสองฝั่งของแม่น้ำโขง มีภูเขา “ภูควายเงิน” ซึ่งเป็นฉากหลังตั้งให้คุณนั้นได้ถ่ายภาพอย่างงดงาม
  4. นอกจากนี้พวกคุณก็สามารถออกไปปั่นจักรยาน ไปตามริมแม่น้ำฝั่งโขงซึ่งจังหวัดเชียงคานนั้นเขาจะมีเส้นทางเล็กๆสำหรับเอาไว้ให้ปั่นจักรยานขับปั่นไปเรื่อยๆตามทางของฝั่งแม่น้ำริมโขงซึ่งเหมาะแก่การออกไปปั่นจักรยานเป็นอย่างมากอีกทั้งบรรยากาศของแม่น้ำริมฝั่งโขงซึ่งจะเป็นช่วงที่พระอาทิตย์นั้นใกล้จะตกดิน และเป็นช่วงเวลาที่งดงามมากซึ่งมันจะทำให้พวกคุณนั้นได้สดชื่นไปตามกันและยังได้รับพลังงานอื่นๆไปเต็มๆ
  5. หมู่บ้านไทดำ ลาวโซ่ง ซึ้งจะเป็นหมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำ ซึ่งจะตั้งอยู่ที่ บ้านนาป่าหนวด ตำบลเขาแก้ว อำเภอเชียงและหมู่บ้านไทดำลาวโซ่งซึ้งได้อพยพหลบหนีมาจากเมืองเชียงขวางของประเทศลาว ตั้งปี พ.ศ. 2448ซึ่งในปัจจุบันนั้นมีหมู่บ้านที่แห่งนี้ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในเชิงวัฒนธรรมซึ่งจะคอยให้ความรู้และอธิบายให้กับนักท่องเที่ยวที่เกี่ยวกับวิถีชีวิตของหมู่บ้านตนเอง

สำหรับทุกท่านที่ต้องการสถานที่ที่คุณอยากจะออกไปท่องเที่ยวในวันหยุดนั้นก็ขอแนะนำเลยต้องเป็นสถานที่เชียงคานซึ่งเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่เราอยากจะแนะนำให้ออกไปสูตรอากาศ และยังมี อาหารให้บริการ ที่พัก และผู้คนที่รวมๆกันแล้วก็เสน่ห์ ที่จะสามารถทำให้ทุกคนนั้นได้หลงรักใน “เชียงคาน”

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย เล่นบาคาร่าให้ได้เงิน