ในกรุงเทพฯซึ่งอยู่ในเขตสัมพันธวงศ์นั้นมีวัดที่โด่งดังมากอยู่วัดหนึ่งในปัจจุบันนี้นั่นก็คือวัดปทุมคงคาซึ่งเมื่อก่อนในอดีตนั้นวัดปทุมคงคาถือได้ว่าเป็นวัดที่มีความเก่าแก่มากที่สุดวัดหนึ่งเพราะมีความเชื่อกันว่าประวัติการสร้างวัดปทุมคงคานั้นมีการสร้างมานานแล้วตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเลยทีเดียว
ซึ่งตามตำนานและมีประวัติที่สามารถเชื่อถือได้มีการระบุเอาไว้ว่าแต่เดิมนั้นวัดปทุมคงคาเป็นวัดเล็กๆซึ่งภายหลังก็ได้มีการถูกปล่อยให้รกร้างว่างเปล่า ไม่มีใครที่จะเดินทางมาอยู่ที่วัดแห่งนี้ไม่มีพระสงฆ์คอยดูแลวัดจนกลายเป็นวัดร้างในที่สุดแต่ต่อมาภายหลังวัดแห่งนี้ได้ถูกนำมาใช้เป็นลานประหารชีวิต
โดยผู้คนที่ถูกนำมาประหารชีวิตที่วัดปทุมคงคาแห่งนี้นั้นจะเป็นกลุ่มคนที่มียศฐาบรรดาศักดิ์ค่อนข้างสูงเป็นกลุ่มพวกเชื้อพระวงศ์ต่างๆโดยเฉพาะในสมัยของพระเจ้าตากสินมหาราชซึ่งในสมัยนั้นที่พระเจ้าตากสินถูกสำเร็จโทษด้วยการประหารชีวิต
และไม่ใช่แค่พระเจ้าตากเท่านั้นที่ถูกนำมาสำเร็จโทษที่นี่ทายาทของพระเจ้าตากอีกหลายพระองค์ด้วยกันก็ถูกนำมาสำเร็จโทษที่นี้ด้วยเหมือนกัน แต่ว่ามีหนึ่งคนที่สามารถรอดพ้นการสำเร็จโทษในครั้งนี้ไปได้นั่นก็คือพระเจ้าเหม็น ซึ่งในขณะนั้นว่ากันว่าที่พระเจ้าเหม็นไม่ถูกสำเร็จโทษตามพระเจ้าตากสินไปด้วยนั้น
ก็เนื่องมาจากว่าพระเจ้าเหม็นนั้นเป็นหลานคนโปรดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 1 นั่นเองแต่อย่างไรก็ตามเพียงไปไม่กี่วันเท่านั้นพระเจ้าเหม็นก็ถูกใส่ความว่าต้องการที่จะยึดอำนาจ และกำลังกรอกการใหญ่ตั้งตัวเป็นกบฏดังนั้นเมื่อรัชกาลที่ 2 ทราบเรื่องจึงได้สั่งประหารพระเจ้าเหม็นในที่สุดนั่นเอง
นอกจากนี้ยังมีการสั่งประหารชีวิตข้าราชบริพารที่ดูแลพระเจ้าเหม็นรวมถึงพระมเหสีเอกซึ่งเป็นน้องสาวของพระเจ้าเหม็นอีกด้วยโดยมีการนำทุกคนมาประหารที่วัดปทุมคงคาแห่งนี้นี่เอง ส่วนพระโอรสของพระเจ้าเหม็นที่มีด้วยกันทั้งสิ้น 6 พระองค์ทุกพระองค์นั้นถูกทหารนำจับไปถ่วงน้ำที่แม่น้ำเจ้าพระยา
ซึ่งในช่วงที่รัชกาลที่ 3 ทรงขึ้นครองราชย์ก็ยังคงใช้พื้นที่ของวัดปทุมคงคานั้นในการสำเร็จโทษกล่องควบคุมเจ้าฟ้าและข้าราชการชั้นสูงอยู่เหมือนเดิมและบุคคลที่ถูกประหารชีวิตที่วัดปทุมคงคาเป็นคนสุดท้ายก็คือ กรมหลวงลักษณ์รณเรศในโทษฐานที่คิดก่อการกบฏ หลังจากนั้นวัดปทุมคงคาก็ถูกบูรณะซ่อมแซมใหม่
แต่เรื่องเล่าหลอนก็ยังคงไม่หมดไปเมื่อที่วัดแห่งนี้มีต้นอโศกต้นหนึ่งซึ่งเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่มีอายุหลายร้อยปีว่ากันว่าชาวบ้านมักจะเห็นคนแต่งชุดในสมัยโบราณเดินเข้าไปในต้นอโศกแล้วหายไปกับตาซึ่งสร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมากจนในที่สุดก็มีการตัดสินใจตัดต้นอโศกต้นนั้นทิ้งไปและปัจจุบันก็ไม่มีใครเห็นวิญญาณเดินภายในวัดอีกเลย
ได้รับการสนับสนุนโดย ufabet เว็บตรง