ศิลปะไม่อยากอย่างที่คิด

หลายคนอาจจะคิดว่าศิลปินนั้นที่เก่งในเรื่องของการสร้างสรรคืผลงานสิลปะนั้นจะต้องเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์และมีฝีมือในการสร้างสรรค์ผลงานที่เก่ง แน่นอนว่าไม่ใช่แบบนั้นทั้งหมดเพราะสำหรับบางคนก็ไม่ได้มีพื้นฐานในเรื่องเหล่านี้มาตั้งแต่แรกเกิด ก็สามารถสร้างตัวเองจนเป็นศิลปินชื่อดังได้มากมาย

แน่นอนว่าซึ่งเหล่านี้จะต้องอาศัยทั้งความชื่นชอบ ความขยัน ความอดทนและที่สำคัญโอกาสทั้งการคว้าโอกาสและการวิ่งตามโอกาสด้วย จึงจะเป็นสิ่งที่ทำให้เรานั้นสามารถวิ่งตามความฝันด้วยการเป็นศิลปินได้ในที่สุด สิ่งที่จะทำให้เราสามารถเป็นศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่สุดยอดได้นั้นเริ่มจาก

การชื่นชอบในงานด้านศิลปะ แน่นอนว่างานด้านศิลปะนั้นมีหลากหลายแขนงมากมายดังนั้นหากต้องการเป็นศิลปินก็ไม่จำเป็นจะต้องเป็นศิลเป็นประเภทจิตรกรเท่านั้น เพราะในสาขาอื่นไม่ว่าจะเป็นประติมากรรม สถาปัตยกรรมก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กันเลยทีเดียว ความชื่นชอบจะเป็นสิ่งที่เป็นเหมือนแรงผลักดันให้เรานั้นมีความตั้งใจและมุ่งมั่นในการทำสิ่งต่างๆนั่นเอง

ถึงแม้ว่าความชอบจะเป็นเรื่องหลักแต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องหลักในความเป็นจุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะเมื่อชอบแล้วสิ่งที่จะต้องทำเพื่อให้เรานั้นมีศิลปะในหัวใจและก้าวสู่การไปเป็นศิลปินได้นั้นก็คือการเรียนรู้ เรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นศิลปะเพื่อให้เรานั้นเกิดการเรียนรู้ว่าแท้จริงแล้วนั้นเราชื่นชอบศิลปะแบบใด

เพราะถ้าหากเราได้ทำในศิลปะที่เรานั้นชื่นชอบที่สุดเพียงอย่างเดียวเราจะสามารถทำมันได้อย่างดีเยี่ยมมากกว่าการที่เรานั้นจะมานั่งทำศิลปะในทุกๆอย่างนั่นเอง ดังนั้นแล้วการเรียนรู้เป็นสิ่งสำคัญแต่ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นต้องทำทั้งหมดทำแต่ในสิ่งที่ชื่นชอบก็เพียงพอ

การฝึกฝนพูดได้ว่าเป็นสิ่งที่จะทำให้เรานั้นสามารถสร้างสรรค์งานศิลปะได้อย่างเต็มที่ การทำสิ่งเหล่านั้นบ่อยๆซึ้ไปซ้ำมาก้จะทำให้จากที่เรานั้นไม่มีความสามารถหรือไม่เคยได้ลองทำในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะเราก็จะสามารถทำสิ่งเหล่านั้นได้และสามารถทำมันได้อย่างดีเพราะเรานั้นมีการฝึกฝนจนชำนาญและเกิดความคุ้นชินกับศิลปะเหล่านั้นแล้วนั่นเอง การฝึกฝนจึงถือว่าเป็นสิ่งที่ค่อนข้าวสำคัญมากเลยทีเดียวดังนั้นเราจะต้องให้เวลาในการฝึกฝนที่มากพอสมควรเลยทีเดียว

การเปิดมุมมองหรือชื่นชมผลงานเพื่อเป็นแนวทางในการสร้างสรรค์ของเรา ก็เป็นสิ่งที่จะสามารถทำให้เรานั้นมีความชำนาญและสามารถสร้างสรรค์ผลงานศิลปะได้อย่างดีมากขึ้น การชื่นชมผลงานคนอื่นนั้นไม่ใช้การลอกเลียนแบบแต่เป็นเหมือนการนำสิ่งเหล่านั้นมาเป็นแรงบันดาลใจ

และต่อยอดในการสร้างสรรค์ในจินตนาการของเราซึ่งอาจจะดีกว่าหรือแย่กว่าก็แล้วแต่ว่าเรานั้นสามารถนำสิ่งเหล่านั้นมาต่อยอดได้มากน้อยขนาดไหน เห็นไหมว่าศิลปะเป็นสิ่งที่ง่ายนิดเดียวหลักๆแล้วเรานั้นต้องให้เวลากับตัวเองและให้เวลากับศิลปะได้ทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนความคิดและจินตนาการด้วยเวลานั่นเอง

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    ufabet

มหาวิทยาลัยแห่งศิลปะ

มหาวิยาลัยศิลปกร มหาวิทยาลัยแห่งการสร้างสรรค์ สำหรับมหาวิทยาลัยศิลปกรนั้นถือว่าเป็นมหาวิทลัยชื่อดังในเรื่องศิลปะอย่างมาก และผู้ที่เป็นผู้ริเริ่มทและสถาปนามหาวิทยาลัยแห่งนี้ขึ้นมาก้ถือว่าเป็นศิลปินผู้โด่งดังในด้านศิลปะของไทยอีกด้วยน่ะ

ก็คือ ศิลป์ พีระศรี นับตั้งแต่ปีแรกจนกระทั่งมาถึงในปีปัจจุบันมหาวิทยาลัยนี้นั้นถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่มีสาขาต่างๆที่หลากหลายให้เลือกเรียน

แต่จะมีการมุ่งเน้นการเรียนการสอนและการศึกษาไปทางด้านกลุ่มของศิลปะและการสร้างสรรค์เป็นหลัก เพื่อเป็นการผลิตบุคลากรทางด้านศิลปะที่มากขึ้นและเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพในวงการศิลปะและการสร้างสรรค์นั่นเอง โดยมหาวิทยาลัยนั้นก็ไม่ได้มุ่วเน้รและเจาะจงในด้านศิลปะเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

แต่ยังมีการผสมผสานด้วยสาขาวิชาอื่นๆและมีการสร้างสรรค์และบูรณาการให้เกิดการสร้างสรรค์แบบข้ามสาขาวิชาอีกด้วย ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจที่ทางมหาวิย่าลัยนั้นตั้งใจและมุ่งเน้นในสิ่งเหล่านี้

การศึกษาในเรื่องทฟษฎีถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการศึกษาในสาขาต่างๆ ศิลปะการสร้างสรรค์ก็เช่นเดียวกันแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นความรู้และประสบการณ์นั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อด้ำลงมือทำเป็นหลัก ทางมหาวิยาลัยศิลปกรนั้นจึงมีการมุ่งเน้นการเรียนการสอนและมุ่มเน้นไปในเรื่องการปฏิบัติด้วย

เพราะถทอว่าสิ่งเหล่านี้จะสามารถทำให้นักศึกษานั้นเมื่อจบออกไปแล้วสามารถทำงานและเป็นบุคลากรในวงการศิลปะที่ดีและมีคุณภาพที่สุด แต่นอกจากการเรียนรู้และการได้ปฏิบัติจริงแล้วนั้นทางมหาวิยาลัยก็ได้มีการมุ่มเน้นในเรื่องของกิจกรรมเพื่อสร้างเสริมประสบการให้แก่นักศึกษาด้วย

เพราะนอกจากการเรียนรู้ ความรู้ความสามารถที่นักศึกษาจะต้องมีแล้วนั้นในเรื่องของการเข้าสังคมและการทำกิจกรรมต่างๆก็ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญควยคู่กับดารเรียนการสอนเลยทีเดียว การจัดกิจกรรมก็มีการจัดกิจกรรมต่างๆทั้งปีกิจกรรมก็มีความแตกต่างกันออกไปในแต่ละกิจกรรม

ไม่ว่ารจะเป็นกิจกรรมรับร้อง กิจกรรมกีฬา กิจกรรมทางดนตรีและอื่นๆอีกมากมาย สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้นักศึกษาทุกวิทยาเขตของมหาลัยศิลปกรนั้นหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ก็ถือว่าทางมหาวิยาลัยนั้นได้วางแผนในการศึกษาให้กับนักศึกษาเป็นอย่างดีรวมไปถึงการใช้ชีวิตหลังจากได้ออกไปเผชิญกับโลกกว่างนอกรั้วมหาลัยด้วย

นอกจากนี้ทางมหาวิยาลัยยังมีการบูรณาการหลักสูตรการเรียนการสอนต่างๆอยู่เสมอด้สนการบูรณาการข้ามศาสตร์ไม่ว่าจะเป็นการนำศิลปะเข้าไปร่วมกับการออกแบบและพัฒนาในการเรียนการสอนในลักษณะวิทยาศาสตร์ เช่นวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ วิทยาการคอมพิวเตอร์ ทำให้สามารถต่อยอดไปในทางที่พัฒนามากขึ้นเป็นเกมส์คอมพิวเตอรื อนิเมชั่น

หรือแม้กระทั่งการบูรณาการทางด้านดนตรีไปผสมผสานกับธุรกิจก็ทำให้เกิดเป็นดนตรีเชิงพาณิชย์เป็นต้น มหาวิทยาลัยศิลปกรนั้นจึงได้ขึ้นชื่อและมีชื่อเสียงทางด้านศิลปะและได้รับการยกย่องให้เป็นมหาวิทยาลัยศิลปะที่ดีที่สุดในประเทศไทยก็ว่าได้

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    ทางเข้า gclub มือถือ

ช่วงเลนส์ถ่ายรูปในระยะต่างๆ

การถ่ายรูปถือว่าเป็นเรื่องที่จะต้องมีการศึกษอย่างจริงจังเพราะถือว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะลงลึกอย่างมากถึงแม้ว่าในปัจจุบันกล้องโทรศัพท์นั้นจะมการพัฒนาเพื่อให้ผู้ใช้งานนั้นสามารถใช้งานได้อย่างง่ายขึ้นก็ตามแต่ถ้าหากต้องการที่จะถ่ายภาพแล้วออกมาสวยงามน่าสนใจนั้น

การศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับการถ่ายรูปจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ สิ่งที่สำคัญก่อนที่จะไปเรียนรู้ในเรื่องของเทคนิคนั้น ผู้ใช้งานจะต้องเรียนรู้ในเรื่องของอุปกรณ์ที่จะใช้ในการถ่ายรูปก่อนนั่นเอง เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยและเคยชินและรู้ว่าอุปกรณ์แต่งละประเภทนั้นเหมาะกับการถ่ายภาพในลักษณะแบบใดนั่นเอง

ช่วงเลนส์ถ่ายรูปจึงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่มีความสำคัญมาก เพราะการถ่ายรูปนั้นระยะในการถ่ายรูปก็มีผลต่อความสวยงามและการสร้างสรรคืภาพถ่ายให้ออกมาแบบไหนด้วย สำหรับช่วงเลนส์นั้นก็มีหลายช่วงซึ่งแต่ละช่วงนั้นก็จะมีความแตกต่างทั้งในเรื่องของภาพถ่ายที่ได้และความเหมาะสมตามการใช้งานด้วย

เริ่มที่ช่วงแรกและถือว่าช่วงนี้นั้นเป็นช่วงที่ได้รับความนิยมจากการถ่ายอย่างมากเนื่องจากเป็นช่วงเลนส์ที่ใช้งานง่ายและเป็นช่วงเลนส์ที่สามารถถ่ายได้อย่างครอบคุมนั่นก็คือช่วงเลนส์ในระยะ 16-24 ซึ่งปัจจุบันก็มีการผลงิตเทคโนโลยีที่มีช่วงเลน์รวมอยู่ในตัวเดียวซึ่งเราจะเรียกว่าเลนส์ซูมนั่นเอง

แต่สำหรับคนที่เล่นกล้องนั้นจะไม่นิยมเลนส์เลนส์ซูมมากนักเพราะเป็นในเรื่องของฟิลลิ่งและขนาดของ F นั่นเองเพราะคนถ่ายรูปส่วนใหญ่นั้นมักอยากจะได้เลนส์ที่ค่อนข้างมี F น้อยเพื่ให้ได้ภาพที่มีความหน่าชัดหลังเบลอนั่นเอง ทำให้จะใช้เลนส์ในลักษณะเลนส์ฟิกเสียมากกว่า ซึ่งในระยะ16นั้น ปเนระยะที่จะใช้สำหรับการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์เพราะจะเป็นเลนส์ที่สามารถเก็บภาพได้แบบกว้างๆ

หรือเรียกว่าการถ่าบภาพแบบ Land Scape นั่นเอง ส่วนช่วงเลนส์ 24 นั้นจะเป็นช่วงที่มีความพอดีเหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปทั้งในการถ่ายคนและวิวทิวทัศน์ เป็นระยะเลนส์ที่ถ่ายออกมาและสวยงาม ซึ่งในระยะ24นี้นั้นก็มีเลนส์ที่ทำ F ออกมาได้ต่ำมากทำให้ในระยะนี้จึงได้ความหน้าชัดหลังเบลอเข้ามาด้วย 

ช่วงเลนส์ระยะ 50-105 ซึ่งเป็นช่วงเลนส์ที่ช่างภาพมืออาชีพนั้นคลั่งไคล้อย่างมาก เพราะเป้นช่วงระยะที่จะได้ความหน้าชัดหลังเบลอซึ่งเป็นระยะที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพบุคคล และเลนส์ในช่วงระยะนี้นั้นจะเป็นช่วงเลนส์ที่สามารถทำFได้ต่ำมาก ทำให้เพิ่มความสวยงามเมื่อถ่ายมากขึ้นไปอีก แต่ข้อเสียสำหรับเลนส์มนช่วงนี้นั้นในขณะที่ถ่ายจะต้องยืนในระยะที่ไกลจากแบบหรือสิ่งที่ต้องการจะถ่ายตามระยะของเลนส์

ช่วงเลนส์ 200 เป็นช่วงเลนส์ที่เหมาะสำหรับการถ่ายในระยะที่ไกลมากๆ แต่จะได้ภาพถ่ายที่มีความสวยงามมากเลยที่เดียวช่วงเลนส์นี้นั้นเหมาะสำหรับการถ่ายดวงดาวและการถ่ายภาพสัตว์ในป่าหรือการถ่ายนกเป็นต้น

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    ดาวน์โหลด Gclub

การเรียนศิลปะในไทยและในต่างประเทศ

       การเรียนศิลปะเป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมในเรื่องพัฒนาการและการเติบโตทางด้านศิลปะที่ดีมากขึ้น ดังนั้นในปัจจุบันการเรียนศิลปะนั้นจึงเป็นที่นิยมและมีจำนวนผู้คนที่ต้องการจะเรียนศิลปะต่างๆมากขึ้น แน่นอนว่าศิลปะนั้นมีหลากหลายแขนงมาก

ไม่ว่าจะเป็นศิลปะประติมากรรม จิตรกรรม สถาปัตยกรรม การถ่ายภาพและยังรวมไปถึงการร้องเพลงและการเล่นดนตรีต่างๆด้วย เมื่อเป็นสิ่งที่คนเรานั้นต้องการและที่จะใฝ่หาความสำเร็จทางด้านนี้ในการเรียนรู้จึงจำเป็นต้องอาศัยในการเรียนรู้ตามหลักสูตรต่างๆ

ที่เรานั้นต้องการ ในบางครั้งมันจึงเกิดเป็นข้อเปรียบเทียบอยู่เสมอว่าจะแตกต่างกันไหมถ้าหากเรานั้นไปเรียนศิลปะในต่างประเทศระหว่างการเลือกที่จะเรียนศิลปะที่ประเทศไทย 

ก็ต้องบอกเลยว่าในเรื่องความแตกต่างนั้น แต่งต่างกันแน่นอนเพราะการเรียนการสอนนั้นอาจจะเป็นละละหลักสูตรแต่อาจจะมีความคล้ายคลึงหรือความสัมพันธ์กันในบางหลักสูตรเท่านั้น แต่ถ้าหากจะมาพูดถึงในเรื่องของความแตกต่างนั้นก็ถือว่ามีความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจอยู่หลายจุด

เริ่มกันในเรื่องของภาษาการสื่อสารการทำความเข้าใจ ในบางครั้งการไปเรียนสิลปะในต่างประเทศนั้น การเรียนการสอนโดยส่วนใหญ่มักจะใช้ภาษที่เป็นทางการหรือเป็นคำศัพท์ของศิลปะนั้นๆอย่างแท้จริงก็อาจจะทำให้เรานั้นได้เรียนรู้และเข้าใจมากกว่าการใช้ภาษาไทย

เพราะในบางครั้งภาษาตามศัพท์ของศิลปะนั้นหลักศุตรในการเรียนการสอนของไทยก็อาจจะมีการนำมาปรับเพื่อให้ผู้เรียนนั้นเข้าใจความเป็นภาษาไทยนั่นเอง ในเรื่องของภาษาจึงถือว่าเป็นข้อแตกต่างในจุดหนึ่งระหว่างการเรียนสิลปะในต่างประเทศและการเรียนศิลปะในไทย

ในเรื่องของสภาพแวดล้อมบ้านเมืองและสิ่งที่อยู่รอบๆตัวเรา แน่นอนเมื่อย้ายจากประเทศไทยไปเรียนหรือศึกษาในด้านศิลปะยังต่างประเทศความแปลกใหม่ในการย้ายไปอยู่ต่างประเทศมันมีความแตกต่างแน่นอน เมื่อมีความแตกต่างในบางครั้งก็สร้างความตื่นเต้น

และเป็นเหมือนเชื้อเพลิงในการที่จะสร้างสรรค์ผลงานทางด้านศิลปะหรือเป็นเชื้อไฟที่ช่วยทำให้เรานั้นอยากที่จะเรียนรู้ศิลปะเมื่อเราไปเรียนยังต่างประเทศมากขึ้น ไม่เพียงเท่านี้ในเรื่องของสภาพแวดล้อมนั้นยังช่วยทำให้เกิดจินตนาการและความคิดสร้างรรค์ใหม่ๆ ที่แตกต่างออกไปได้ดด้วย

อิสระทางความคิด บอกเลยว่าถ้าหากไปเรียนสิลปะหรือไม่ว่าจะเป็นศึกษาเล่าเรียนอะไรก็ตามยังต่างประเทศเรานั้นจะได้อิสระทางความคิดมากกว่าการเรียนในไทยเพราะบางครั้งการที่เรียนศิลปะในไทยนั้นก็เป็นการสร้างกรอบในการเรียนมากเกินไป

ทำให้ในบางครั้งผู้เรียนหรือผู้สร้างสรรค์นั้นไม่กล้าที่จะแสดงออกมา ดังนั้นแล้วไม่ได้หมายความว่าการเรียนศิลปะในประเทศไทยไม่ดีหรือไม่น่าเรียนเพียงแต่สิ่งเหล่านี้คือข้อแตกต่างที่เรานั้นเห็นได้อย่างชัดเจน ระหว่างความแตกต่างของทั้งสอง

 

สนับสนุนโดย  เซ็กซี่ บาคาร่าออนไลน์