ประวัติศาสตร์การเมืองฝรั่งเศสครั้งใดก็ตามที่ได้กล่าวไปต้นแบบทางการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีความหลากหลายจะนึกถึง 3 ประเทศได้แก่สหราชอาณาจักรสหรัฐอเมริกาแล้วก็ฝรั่งเศษกันด้วยทีนี่เรามาดูกันว่าหนึ่งในประเทศที่บอกว่าเป็นแม่บทของประชาธิปไตยนั้นการเดินทางของประชาธิปไตยของเขาไม่ได้ราบรื่นอย่างที่เราคิด
การเมืองฝรั่งเศส หลายครั้งมีภาวะที่เรียกว่าล้มลุกคุกคานเยอะพอสมควรจนมาถึงปี1958
ฝรั่งเศษถึงได้เริ่มต้นมีประชาธิปไตยที่เรียกว่าลงหลักปักฐานและมีความมั่นคงกันด้วยเรามาดูกันว่าพัฒนาการเมืองของเขาที่เขาเรียกกันว่าฝรั่งเศษมีการพัฒนาการทั้งหมด 5 สาธารณรัฐ
แต่ละสาธารณรัฐเป็นอย่างไรทำไมเราจึงไม่เรียกว่าสาธารณรัฐฝรั่งเศษในครั้งเดียวสาเหตุเพราะว่ามีหลายช่วงประชาธิปไตยนำไปสู่เผด็จการ เผด็จการนำไปสู่ราชาธิปไตยประชาธิปไตยกลับมาอีกครั้งนึงจากนั้นกลายเป็นระบอบจักรพรรดิจากนั้นกลับมาสู่ประชาธิปไตยจากนั้นพ่ายแพ้สงคราม
ซึ่งเรารองมาไล่เรียงกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับการเมืองฝรั่งเศษกันบ้างเวลาเรานึกถึงการเมืองฝรั่งเศษเราจะนึกปี1789 เป็นปีที่มีการล้มล้างราชวงศ์บูร์บงเป็นจุดสิ้นสุดของระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ของฝรั่งเศษกันด้วยถ้าเทียบกับประวัติศาสตร์ไทยปี1789 ก็คือปีที่ 7 แห่งรัชกาลที่ 1 ของกรุงรัตนโกสินทร์นั่นเองมีความหมายเป็นช่วงรัตนโกสินทร์ในบ้านของเรานั่นเอง
ในช่วงนั้นหลังจากที่มีการล้มล้างราชวงศ์บูร์บงและมีการเริ่มต้นตั้งสาธารณรัฐ
ที่เขาเรียกกันว่าสาธารณรัฐที่1 แล้วแน่นอนว่าในช่วงของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ก็จะต้องมีความผันผวนทางการเมืองมีภาคส่วนทางการเมืองจำนวนมากมายทีเดียวจนกระทั่งดำเนินไปปี 1804
หลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองฝรั่งเศสได้เพียง 15 ปี เท่านั้นเอง นโปเลียนซึ่งเป็นทหารหนุ่มที่มีอนาคตไกลเพราะว่าเคยเป็นวีรบุรุษสงครามในสมรุภูมิออสเตรียสมรภูมิตอนเหนืออิตาลีรวมถึงสมรภูมิอียิปต์เข้าสู่ปารีสและทำการยึดอำนาจกลายเป็นเผ็ดจการกันด้วย
โดยที่มีการปกครองฝรั่งเศสระยะเวลายาวนาน 10 ปี ด้วยกันโดยในช่วงเวลาดังกล่าว นโปเลียน เปลี่ยนสถานภาพจากเดิมเป็นผู้นำของสมัชชาแห่งชาติมากลายเป็นจักรพรรดิสถาปนาตัวเองเป็นจักรพรรดิ นโบเลียน หลังจากนั้น นโปเลียนพาฝรั่งเศสในฐานะเป็นจักรวรรดิที่ 1 เข้าไปสู่สงครามทั่วยุโรป
ด้วยความมุ่งมั่นเชิงการทหารทำให้นโปเลียนนั้นบุกรุกพื้นที่ยุโรปไปในหลากหลายพื้นที่เพราะต้องการที่จะให้จักรวรรดิฝรั่งเศสนั้นเป็นจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในพื้นที่แต่ท้ายที่สุดมันทำให้พันธมิตรทั้ง 6 ในยุโรปเองจำเป็นต้องร่วมมือและผนึกกำลังในการที่จะเอาชนะ นโปเลียนให้ได้
จนที่สุดนโปเลียนนั้นพ่ายแพ้สงครามนโปเลียนในปี1814 หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นฝรั่งเศสยังไม่ได้กลับไปสู่ประชาธิปไตยอีกครั้งนึงเพราะว่าฝรั่งเศสนั้นในฐานะที่เป็นผู้พ่ายแพ้สงครามบรรดาพันธมิตรทั้ง 6 ชาติของยุโรปในเวลานั้นนั่งโต๊ะรวมกันและบอกว่าหากต้องการให้ยุโรปปมีสันติภาพจำเป็นต้องมีการรื้อระบอบกษัตริย์แบบเดิมกลับมาอีกครั้งนึง
สนับสนุนโดย gclub