ตำนานภาคเหนือ ตำนานเมืองลับแล 

         วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องตำนานของจังหวัดอุตรดิตถ์ซึ่งตำนานที่เป็นเรื่องเล่ากันมาอย่างยาวนานและเป็นที่นิยมเล่าขานกันนั่นก็คือตำนานเมืองลับแลเนื่องจากว่าที่จังหวัดอุตรดิตถ์นั้นมีอำเภอเล็กๆอยู่อำเภอหนึ่งซึ่งอำเภอที่ว่านั้นชื่อว่าลับแลซึ่งเมื่อก่อนนั้นจังหวัดอุตรดิตถ์ไม่ค่อยที่จะมีความเจริญมากนักพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าเขาซะส่วนมาก

ดังนั้นหากใครก็ตามที่ไม่ชำนาญทางเวลาที่จะเดินทางไปที่หมู่บ้านลับแลก็มักจะหลงทางจึงมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับความเชื่อว่าที่จังหวัดอุตรดิตถ์นั้นมีเมืองลับแลซ่อนอยู่ ในตำนานนั้นมีการเล่าว่าในสมัยโบราณนั้นชาวบ้านมีความเชื่อกันว่าที่จังหวัดแห่งนี้มีเมืองลับแลแต่ไม่เคยมีใครหาเจอเพราะจะถูกบังตาเอาไว้อยู่มาวันหนึ่งมีชายหนุ่มในหมู่บ้านคนหนึ่งเข้าไปในป่าเขาเห็นหญิงสาวเป็นจำนวนมากเดินออกมา

และหญิงสาวเหล่านั้นก็ถือใบไม้มาคนละใบแล้วนำใบไม้เหล่านั้นไปซ่อนเขาจะได้ซุ่มแอบมองอยู่ หลังจากหญิงสาวสร้างใบไม้เสร็จแล้วต่างก็เดินทางไปทำธุระของตนเองหลังจากนั้นก็กลับมาและพากันมาหาใบไม้ที่ตนเองซ่อนเอาไว้มีหญิงสาวคนหนึ่งหาใบไม้ที่ตัวเองซ่อนเอาไว้ไม่เจอเนื่องจากว่าชายหนุ่มได้แอบไปขโมยใบไม้ของนางมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ชายหนุ่มเห็นว่าหญิงสาวมีท่าทีกระวนกระวายใจมาก จึงได้เอาใบไม้เมื่อคืนให้กับเธอ แต่มีข้อแม้ว่าเธอจะต้องพาเขาไปยังบ้านเมืองของเธอด้วยซึ่งเธอก็ยินยอมเมื่อเข้าไปในเมืองลับแลปรากฏว่าบ้านเรือนส่วนใหญ่มีแต่ผู้หญิงจะมีผู้ชายอยู่น้อยมากเขาจึงได้ถามถึงเหตุผลซึ่งเธอก็ตอบว่าเป็นเพราะที่เมืองลับแลอย่างนี้ทุกคนจะต้องไม่พูดโกหกและถ้าใครพูดโกหกก็จะถูกขับไล่ออกจากหมู่บ้าน

ซึ่งผู้ชายส่วนใหญ่นั้นมักจะโกหกทำให้คนในหมู่บ้านนี้มีน้อยที่เป็นผู้ชาย  ชายหนุ่มขอยู่ในเเมืองลับแลกับหญิงสาวด้วย โดยแม่ของหญิงสาวก็อนุญาติแต่มีข้อแม้ว่าห้ามพูดโกหก โดยชายหนุ่มก็ตกปากรับคำเป็นอย่างดีอยู่ไปไม่นานชายหนุ่มและหญิงสาวก็ตกหลุมรักซึ่งกันและกันและแต่งงานกันจนมีลูกด้วยกัน 1 คนอยู่มาวันหนึ่งขณะที่หญิงสาวออกไปธุระข้างนอกนั้น

ลูกของพวกเขาเกิดร้องไห้งอแงชายหนุ่มจึงได้มีการกล่อมลูกเพื่อให้ลูกหยุดร้องไห้แต่บังเอิญว่าข้อความที่เขาพูดกับลูกนั้นเป็นคำพูดที่โกหกแม่ยายของเขามาได้ยินเข้าพอดีทำให้แม่ยายของเขานั้นไปบอกกับลูกสาวว่าสามีของเธอนั้นพูดโกหกและให้ขับไล่ออกจากหมู่บ้านหญิงสาวจึงบอกให้สามีของเธอเดินทางออกจากหมู่บ้านโดยเธอได้เตรียมอาหารน้ำดื่มและข้าวของที่จำเป็นในการเดินทางไปให้ด้วย

ซึ่งหนึ่งในนั้นเธอได้มีการนำขิงใส่ไปให้สามีเธอเป็นจำนวนมากในที่สุดก็ได้หนูจำเป็นต้องเดินทางออกนอกหมู่บ้านคณาที่เขาเดินทางกลับไปหมู่บ้านเดิมของเขานั้นเขารู้สึกว่ายิ่งเดินห่างไกลจากเมืองลับแลมากเท่าไหร่ถุงย่ามที่เขาสะพายมานั้นก็ยิ่งหนักมากขึ้นเท่านั้นเมื่อเปิดออกดูก็พบว่ามีขิงเป็นจำนวนมากอยู่ในย่ามเขาจึงได้โยนขิงทิ้งเลยเขาได้โยนทิ้งออกตลอดทางไปเรื่อยๆจนเหลือแค่อันเดียว

เมื่อไปถึงหมู่บ้านเขาก็เปิดถุงย่ามดูปรากฏว่าขิงที่เหลือเพียงอันเดียวเท่านั้นกลายเป็นทองคำด้วยความเสียดายเขาจึงย้อนกลับไปเพื่อจะไปเก็บขิงที่เขาโยนทิ้งแต่ปรากฏว่าสิ่งเหล่านั้นได้โตเป็นต้นขิงไปหมดแล้วและเมื่อเขาขุดลงไปดูก็พบว่าทางใต้ดินนั้นก็เป็นเพียงแค่ขิงธรรมดาเท่านั้นเขาพยายามที่จะตามหาเมืองลับแลแต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอจนในที่สุดเขาก็ล้มเลิกความตั้งใจและกลับไปอยู่หมู่บ้านของตนเองเหมือนเดิม

 

สนับสนุนโดย  สมัครจีคลับ ไม่มีขั้นต่ำ