ตำนานวัยรุ่นลองของสุสานร้างโสเภณี

ซึ่งหลังจากที่กลุ่มเด็กแว้นกลุ่มแรกได้ไปถึงที่เขื่อนโพธารามแล้วปรากฏว่ารอแล้วรออีกกลุ่มเด็กแว้นที่ได้แยกตัวออกไปสามคนเขาก็ไม่มาสักทีถึงขั้นที่ว่าต้องโทรไปถามกันเลยแต่ในขณะที่กำลังโทรไปสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือเด็กแว้นสามคนนั้นไม่มีใครที่จะรับโทรศัพท์กันเลยแม้แต่คนเดียวเลย

นอกจากนี้ในตอนนั้นเองกลุ่มเด็กแว้นกลุ่มแรกเขาได้คิดว่าคงจะเปลี่ยนใจแล้วก็คงจะแยกย้ายพากันกลับบ้านไปแล้วคงจะไม่มีอะไรหรอกปรากฏว่ารุ่งเช้าอยู่ดีๆได้มีสายโทรศัพท์ได้โทรเข้ามาในกลุ่มเด็กแว้นคนหนึ่งได้โทรมาบอกว่าได้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับเด็กแว้นทั้งสามคนที่แยกตัวออกไป

เพราะฉะนั้นแล้วในข้อมูลตรงส่วนนี้ที่เราได้ไปหาข้อมูลมามันค่อนข้างน่าลุกลุกมาเพราะว่าสามคนนั้นที่เกิดอุบัติเหตุคนนี้คนแรกคือกลุ่มเด็กแว้นกลุ่มแรกที่ทักว่าเห็นผู้หญิงเสื้อสีเขียวส่วนคนที่สองคือเป็นคนที่มีระเบิดไว้ในมือตอนแรกและคนที่สามที่เขากำล้งอ้วกในขณะที่เขากำลังขับรถไปเที่ยวต่อ

โดยทั้งสามคนนี้ได้เกิดอุบัติเหตุค่อนข้างที่จะรุนแรงเลยคนแรกมีอาการกระทบทั่งอย่างรุนแรงถึงขนาดที่ว่ามีอาการสมองบวมและไม่สามารถรับรู้ความรู้สึกของตัวเองได้ก็คือนอนเป็นเจ้าชายนิทราไปนั่นเองส่วนคนที่สองมีอาการแขนขาหักและมีการม้ามแตกและคนสุดท้ายมีอาการบาดเจ็บค่อนข้างที่จะน้อยที่สุดคือมีรอยบอบซ้ำทั่วร่างกายแต่สภาพร่างกายดีที่สุดในตอนนั้น

เมื่อกลุ่มเด็กแว้นได้เห็นเพื่อนทั้งสามคนมีอาการค่อนข้างที่น่าปลอดภัยแล้วแต่มีเพียงคนเดียที่สมองบวมค่อนข้างน่าเป็นห่วงเขาเลยคิดว่าน่าจะไม่มีเหตุการณ์อะไรที่มันจะแย่ไปกว่านี้อีกแล้วแต่อยู่ดีๆเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อเด็กแว้นคนที่สามที่บอกไปว่าอาการดูสู้ดีที่สุดอยู่ดีๆเขาได้เสียชีวิไปอย่างกระทันหันโดยที่ไม่สามารถบอกสาเหตุได้เลย

ซึ่งตรงนี้เลยสร้างความแปลกใจให้พ่อแม่และกลุ่มเด็กแว้นมากแต่พอหาสาเหตุไม่ได้ก็ต้องส่งศพไปชันสูติที่โรงพยาบาลก้ได้ทำการตรวจศพปรากฏว่าก็ตอบได้เพียงคิดมันเกิดจากอะไรที่ร่างกายมันเกิดความบอบซ้ำอย่างรุนแรงทั้งภายในและภายนอกมันเลยทำให้เขาเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ดังนั้นพอเวลากลับไปจัดงานศพจริงๆสัปเหร่อกับได้พุดอีกอย่างหนึ่งก็คือผู้ชายคนนี้จับดูก็รู้แล้วว่ากระดูกหักมากหลายส่วนในร่างกายแต่ทำไมผลชันสูติศพไม่สามารถบอกได้ว่าเหตุเสียชีวิตของผู้ชายคนนี้มาจากกระดูกหักทั่วร่างกายไม่ใช่การบอบซ้ำ

 

สนับสนุนโดย.  gclub สมัครสมาชิก